เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับลง -12.4 จุด -0.97% ดัชนีปิดตลาด 1261.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.7 หมื่นล้านบาท Sector ที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มชิ้นส่วน DELTA กลุ่มพลังงาน GULF, PTT กลุ่มขนส่ง THAI กลุ่มธนาคาร KTB, SCB ฯลฯ กลุ่มที่ปรับขึ้นและหนุนดัชนีคือ กลุ่มท่องเที่ยว, กลุ่มโรงพยาบาล BH ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น
TTA -2.2%, PSL -4.3%
หุ้นกลุ่มเรือเทกองปรับลงรับตัวเลข ดัชนีค่าระวางเรือ BDI Index ปรับลง 2 วันติดและปรับลงแรง -4.15% ปิดที่ 2727 จุด คำแนะนำ ชะลอลงทุน Wait & see แนะนำติดตามทิศทาง BDI
CBG -6.7% OSP -4.4% SAV -2.78%
หุ้นกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้อิง กัมพูชา ปรับลงรับข่าวความตึงเครียดชายแดนไทย – กัมพูชา ปะทะเดือด เหตุการณ์ที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีไทย ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ 7 ธ.ค. ในพื้นที่บริเวณภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน ส่งผลให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการตอบโต้ ล่าสุด ได้มีการอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน (อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์) ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้วอย่างน้อย 70% โดยหุ้น อาทิ SAV มีสัดส่วนรายได้กัมพูชา 100% CBG 4%, OSP < 2%, BDMS 1.2%,BH 1% ฯลฯ กลยุทธ์ระยะสั้นแนะนำ Wait & see รอดูสถานการณ์ รอสถานการณ์คลี่คลาย
DELTA -3.5% HANA -2.45% KCE -1.88%
กลุ่มส่งออกชิ้นส่วน ประเมินมีจิตวิทยาลบจาก 1.) เงินบาทดอลลาร์แกว่งตัวแข็งค่า 31.7-31.8 บาท 2.) Bond Yields ทั้งสหรัฐและไทยปรับขึ้นระยะสั้น กดดันหุ้นชิ้นส่วน เป็น 1 ในกลุ่ม Sector ที่เป็นตัวแทนกลุ่ม Tech ไทย
MINT +6.6%
KSS มองว่าราคาหุ้น MINT ปรับตัวขึ้นมาจาก 3 ประเด็นได้แก่ i) แนวโน้ม RevPAR 4Q25F มีแนวโน้มที่ดีขึ้น qoq, yoy โดยยุโรป +low-mid single digit, ไทย +single digit และมัลดีฟส์ +double digit ii) ค่าเงินบาท/ยูโร ที่อ่อนค่าลงประมาณ 2-3% yoy iii) Sentiment บวกจากนโยบายการซืัอหุ้นคืนของบริษัท เริ่มปลาย พ.ย. ซึ่งซื้อคืนไปแล้ว 9 แสนหุ้น (จากนโยบาย 23 ล้านหุ้น) เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30.50 บาท
TRUE +2.75%
เป็นหุ้น defensive เหมาะสำหรับพักเงินในภาวะตลาดผันผวน และทิศทางกำไรยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นจากการแข่งขันในธุรกิจที่ลดลง ประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่าย คงคำแนะนำ ซื้อ TRUE 18.20 บาท









