คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ต้าน 1270/1280 จุด รับ 1251/1243 จุด
จิตวิทยาลบความขัดแย้งไทย – กัมพูชาที่กลับมารอบใหม่ น่าจะสะท้อนใน SET ไปแล้ว วันนี้มองแรงหนุนฟื้นตัวรัฐบาลสหรัฐผ่อนคลายการส่งออกชิปกับจีน
กลยุทธ์มองหุ้นเด่นวันนี้
1.) หุ้น Infra Tech (ชิ้นส่วนฯ ไฟฟ้า สื่อสาร)
2.) หุ้น China Plays
3.) หุ้นอิงดอกเบี้ยขาลง (คาด Fed ลดดอกเบี้ยรอบประชุม 9-10 ธ.ค. สถานการณ์กัมพูชายืดเยื้อ ถ่วงเศรษฐกิจฟื้นจากการค้าชายแดนช้า เสริมโอกาสลดดอกเบี้ย BOT)
4.) หุ้นภาคบริการ ดักเก็งรายงานนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ที่นักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสเริ่มนำการฟื้นตัว
Key Factors:
(+) US – China: รัฐบาลสหรัฐผ่อนคลายการส่งออกชิปกับจีน นำโดย NVIDIA (After hours หุ้น +2-3%) แลกกับการแบ่งรายได้ให้รัฐฯ 25% เป็น Upside ใหม่กลุ่มเทคโนโลยี China Plays ขณะที่ลดเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ
(-) Oil: ราคาน้ำมันปรับลงเฉลี่ย -1.99% Dollar Index สลับแข็งค่าก่อนประชุม Fed อิรักกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกราว 0.5 ล้านบาร์เรล (0.5% ของ Supply ต่อวัน) ถ่วงหุ้นพลังงานต้นน้ำ (10-11% ของ SET)
(*/+) TISA: เบื้องต้น Thailand Individual Savings Fund กระจายลงทุนหลากหลาย แต่จุดเด่นที่มาตรการถาวร เน้นลงทุนยาว จะช่วยเงินลงทุนระยะยาวภายในค่อยๆฟื้นโซนฐาน แต่ ThaiESG ปลายปีอาจเห็นกระแสดีขึ้น
(*/-) TH – Cambodia confilct: จิตวิทยาลบความขัดแย้งกัมพูชาระลอกใหม่ น่าจะสะท้อนในตลาดนี้ไปแล้ว อิงฐานรายได้หุ้นส่วนใหญ่เชื่อมโยงลดลงต่ำ < 4% แต่ตลาดอาจจะรอติดตามท่าทีสหรัฐฯในเรื่องการค้า
(+) Fund Flows: ภาพ Fund Flows เข้าไทยต่อเนื่อง 5 วันติด เช้านี้เงินบาทอยู่ในโซนแข็งค่า 31.9-32.0 บาท วันนี้ลุ้นภาพเด่นภาคบริการที่มีน่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนขึ้น
Technical Focus 9 ธ.ค. 68
คาดการณ์แนวโน้ม SET INDEX วันนี้ : “ย่อตัว เน้นแนวรับ 1,257 / 1,248 แนวต้านขยับลง 1,270 / 1,276”
ทั้งนี้แท่งเทียนแกว่งตัวลงในลักษณะของ LONG BLACK LINE หลังจากดัชนีแกว่งตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 D จึงถูกแรงขายทำกำไรเข้ากดดันจนปิดหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 10 มีเพียงเครื่องมือทางด้านเทคนิคบางตัวที่ยังมีสัญญาณบวก อาทิ MODIFIED STOCHASTIC ที่ %K ยังคงตัดขึ้นเหนือ %D แต่เครื่องมืออื่นๆเริ่มกลับมามีสัญญาณลบมากขึ้น อาทิ RSI ที่เริ่มถอยลงจากระดับ 50 และ MACD ที่ยังติดลบ ในขณะที่ VOLUME มีค่าใกล้เคียง / มากกว่าค่าเฉลี่ย 5 วันเล็กน้อย ฉะนั้นจึงยังให้น้ำหนักดัชนีมีโอกาสย่อตัวต่อ จึงเน้นแนวรับ 1,257 / 1,248 จุด (PRIOR HIGH) ส่วนโซนแนวต้านขยับลงที่บริเวณ 1,270 / 1,276 จุด (EMA 10 D / EMA 50 D)
คำแนะนำ :
1) นักลงทุนระยะสั้นที่ได้พิจารณาซื้อตามแนวรับที่วางไว้ เน้นขายทำกำไรตามแนวต้านเป็นหลัก
2) นักลงทุนระยะกลาง / ยาว แนะนำแค่ถือลงทุน (STOP LOSS / LOCK PROFIT กรณีดัชนีปิดหลุดแนวรับ 1,248 จุด)
เก็งกำไร
- TRUE เป้าหมาย 11.70 / 12.20 แนวรับ 11.00 จุดตัดขาดทุน 10.70
- PLANB เป้าหมาย 4.22 / 4.32 แนวรับ 4.06 จุดตัดขาดทุน 4.00
- NEX เป้าหมาย 1.18 / 1.24 แนวรับ 1.10 จุดตัดขาดทุน 1.07
- MYDIYT เป้าหมาย 9.60 / 9.80 แนวรับ 9.20 จุดตัดขาดทุน 9.00 Depositary Receipts (DR)
- SMIC23 เป้าหมาย 3.62 / 3.70 แนวรับ 3.42 จุดตัดขาดทุน 3.30
KSS Commodities Update – 9-ธ.ค.-25
- น้ำมันดิบ Brent -1.98%DoD ปิดที่ US$ 62.49/barrel
- น้ำมันดิบ West Texas -2.00%DoD ปิดที่ US$ 58.88/barrel
- ถ่านหินล่วงหน้า Newcastle +0.73%DoD ปิดที่ US$ 110.5/ตัน
- ก๊าซธรรมชาติ NYMEX -7.13%DoD ปิดที่ US$4.912/MMBtu
- น้ำตาล +0.14%DoD ปิดที่ 14.82Cent/lb
- ถั่วเหลือง -1.04%DoD ปิดที่ 1093.75 Cent/bu
- น้ำมันปาล์ม -0.98%DoDปิดที่ 4055Myr/mt
- ยาง TOCOM +0.61%DoD ปิดที่ 327.4JPY/kg
- เหล็กเส้น -0.22%DoD ปิดที่ 455 CNY/MT
- ดัชนีค่าระวางเรือ BDI -1.21% ปิดที่ 2694 จุด
- ราคาทองคำ -0.17% ปิดที่ 4190.66 US$/Oz
- ราคาบิทคอย +1.22% ปิดที่ 91331.98 USD








