กลยุทธ์วันนี้: ตลาดมองเศรษฐกิจสหรัฐฯดีพอสำหรับ “Hawkish Cut”

มุมมองตลาด:

เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,260–1,280 จุด โดยหากปิดเหนือ 1,280 จุดได้ จะเปิด Upside เข้าหาระดับ 1,300–1,320 จุด ตลาดประเมินผลการประชุม Fed ในลักษณะ “Hawkish Cut” โดยเฟดมีมติ 9–3 เสียงปรับลดดอกเบี้ย 25 bps สู่ 3.50–3.75% ขณะที่ Dot Plot สะท้อนลดดอกเบี้ยปี 2025–27 เพียงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งตึงกว่าตลาดคาด

ปัจจัยต่างประเทศ:

แม้ Dot Plot จะตึงตัวกว่าคาด แต่ประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกปรับขึ้น โดย GDP ปี 2026 เพิ่มเป็น 2.3% และ Core PCE ปี 2025 ลดลงเป็น 2.5% ทำให้ตลาดมองเศรษฐกิจแข็งแรงพอรองรับดอกเบี้ยสูงกว่าระดับ Neutral นอกจากนี้ Fed ยังประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นเพื่อรักษาสภาพคล่อง ซึ่ง Surprise ตลาดและเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง

ปัจจัยในประเทศ:

ตลาดติดตามการพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 หากผ่านจะเดินหน้าสู่วาระ 3 ช่วงปลายเดือน ธ.ค. ทำให้ Timeline ยุบสภาคาดยังเป็นปลายเดือน ม.ค. ด้านมาตรการเศรษฐกิจ รอติดตามการประชุมครม. สัปดาห์หน้า ทั้งโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 และ TISA

กลยุทธ์:

เน้นลงทุนในหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q25–1H26 แข็งแกร่ง และมี Deep Valuation

หุ้นเด่นวันนี้: KTB

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 29 บาท
  • ระยะสั้นผลการประชุม Fed ที่เป็นลักษณะ Hawkish Cut คาดว่าจะทำให้แนวโน้มการประชุมกนง.ในสัปดาห์หน้าอาจยังคงดอกเบี้ยเสียงแตกเช่นเดิม ขณะที่ด้านปันผลเรายังคาดหวังโอกาสเพิ่ม Payout Ratio และหนุน Dividend Yield สูงขึ้นเป็น 6-7% ต่อปี
  • เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ KTB ที่มีโอกาสเห็นสินเชื่อเติบโตได้แข็งแกร่งกว่ากลุ่มตามการลงทุนของภาครัฐที่คาดยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2026 ประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายอาจมี Upside หากดอกเบี้ยนโยบายของกนง.จบลงที่ 1.25% สูงกว่าประมาณการปัจจุบันที่ 1%
  • แนวรับ 28//27 บาท แนวต้าน 29//30 บาท

ประเด็นสำคัญวันนี้:

(0) ตัวเลขนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ 49: รวม 669,991 คน เฉลี่ย 95,700 คน/วัน +5% w-w, -4% y-y นักท่องเที่ยวเกือบทุกตลาดเพิ่มขึ้น โดยมาเลเซียฟื้นหลังน้ำท่วม จีนเพิ่ม 4% w-w Non-Chinese โต 6% w-w จำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 1 ม.ค.–7 ธ.ค. อยู่ที่ 30.27 ล้านคน คาดทั้งปี 2025 ที่ 33 ล้านคน (-7% y-y)

(+) KTC: คาดกำไรปี 2026 +2.1% y-y จาก SG&A สูงขึ้นและสินเชื่อโต 2.8% แต่มีมุมมองบวกต่อต้นทุนความเสี่ยงที่ลดลงสู่ 5.4–5.7% และการคง NPL ต่ำกว่า 2% ในปี 2025–27 อีกทั้งมี Upside หากเพิ่ม Payout Ratio เป็น 50–60% จากฐาน 45% ปัจจุบัน ราคาเป้าหมาย 35 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -