บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* กลยุทธ์ที่วางไว้ดีจะเป็นตัวช่วยรองรับปัจจัยลบ
Event : อัพเดตข้อมูลบริษัท, ปรับประมาณการกำไร และ ปรับราคาเป้าหมาย
Impact :
เผชิญความท้าทายบางประการในไตรมาสที่สี่
ถึงแม้ว่าตามปกติแล้วไตรมาสที่สี่จะเป็นช่วง high season แต่เรามองว่าไตรมาสสี่ปีนี้มีความท้าทายจาก i) ผลของฐานที่สูงในปีที่แล้วซึ่งเกิดจากมาตรการ digital wallet (SSSG ของ CPALL ใน 4Q68 อยู่ที่ 4%) ii) ฝนตกหนักในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว iii) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวลง (-7% ในช่วง 11M68) iv) กรณีพิพาทชายแดนไทย และ กัมพูชา และ v) น้ำท่วมภาคใต้ของไทย ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดล่าสุดของรัฐบาลอย่าง “คนละครึ่งพลัส” อาจจะทำให้อุปสงค์โดยรวมของธุรกิจร้านสะดวกซื้อลดลง นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงจากกรณีพิพาทชายแดน และ ภาวะน้ำท่วมอาจจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงวันหยุด และ เทศกาลถูกเลื่อนออกไป ซึ่งจะไปกดดันผลการดำเนินงานของบริษัทใน 4Q68 เราคาดว่าบริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการเสนอขายสินค้า และ คุมต้นทุนเพื่อซึมซับผลกระทบเชิงลบที่อยู่เหนือความควบคุมจากภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการอาจจะดีขึ้นได้ไม่มากนัก QoQ และ คาดว่าจะลดลง YoY
จากนี้ไปจะดีขึ้นได้จำกัด
เรามองว่าจากนี้ไปบริษัทจะมีปัจจัยสนับสนุนให้ดีขึ้นได้จำกัด เนื่องจาก i) คาดว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ไทยจะแผ่วลงจาก 1.9% ในปี 2568F เป็น 1.4% ในปี 2569F (Figure 1) และ ii) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ช้าลง หลังจากที่ KGI ปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยปีนี้ลง 4% เป็น 32.9 ล้านคน (จากเดิม 34.1 ล้านคน) และ ปีหน้าเป็น 34.2 ล้านคน (จาก 35.5 ล้านคนในปี 2569) ตามที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI เรื่อง “จำนวนท่องเที่ยวลดลง 7.3% YoY ใน 11M68” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เราปรับประมาณการกำไรปี 2568F-2570F ซึ่งหลัก ๆ แล้ว สะท้อนถึง i) การปรับประมาณการกำไรของ CP Axtra (CPAXT.BK/CPAXT TB) (อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของของ KGI เรื่อง CPAXT: Limit improvement onward ฉบับวันที่ 11 ธันวาคม 2568 และ ii) การปรับลดสมมติฐาน SSSG เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง เราคาดว่ากำไรของ CPALL จะโต 6-7% ในช่วงปี 2569-2570 และ de-rate PER เป็น 18.0X จาก 20.0x เพื่อสะท้อนถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง และ ผลการดำเนินงานที่แผ่วลงของ CPAXT
Valuation & action
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569F เป็น 58.00 บาท อิงจาก PER ที่ 18.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -2.0 S.D) จากเดิม 62.00 บาท ถึงแม้เราจะ de-rate PER เพื่อให้มีความอนุรักษ์นิยมมากขึ้น แต่ราคาหุ้น CPALL ในปัจจุบันคิดเป็น PER ที่ 13X (อิงจาก EPS ปี 2569) และ ยังเหลือ upside จากราคาปิดล่าสุดอีก 34% เรามองว่าความสามารถในการวางจำหน่ายสินค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยรองรับผลกระทบเชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เราจึงแนะนำ “ซื้อ” CPALL
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัว, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าที่คาด, disruption จากเทคโนโลยีใหม่, ถูกยกเลิกเครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic







