บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
PTT Exploration and Production (PTTEP.BK/PTTEP TB)* แผนห้าปีฉบับล่าสุด (2569F-2573F)
Event
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรเต็มปี แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลง
Impact
คาดว่าปริมาณยอดขายจะโต 3.5% CAGR ในอีกห้าปีข้างหน้า
PTTEP คาดว่าปริมาณยอดขายรวมจะเพิ่มขึ้น 9% YoY เป็น 556 KBOED ในปี 2569F เนื่องจากบริษัทเพิ่งเข้าไปซื้อสินทรัพย์มาใหม่สองรายการ (เพิ่มขึ้น 13 KBOED YoY) ได้แก่ i) โครงการ Block A-18 ในมาเลเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 และ ii) โครงการ Touat ในแอลจีเรียเมื่อเดือนกันยายน 2568 ในขณะที่บริษัทยังมีแผนจะเพิ่มการผลิตที่โครงการเอราวัณ, บงกช และอาทิตย์ในประเทศไทย (เพิ่มขึ้น 10-15 KBOED YoY) รวมถึงโครงการ Block K และ SK309&311 ในมาเลเซียด้วย (เพิ่มขึ้น 10 KBOED YoY) นอกจากนี้ ยังคาดว่าปริมาณยอดขายในปี 2570F จะเพิ่มขึ้น 4% YoY เป็น 576 KBOED จากการเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีเป็นปีแรกของหลุมใหม่ที่โครงการ Block K และ SK309&311 ในมาเลเซีย นอกจากนี้ เราคาดว่าปริมาณยอดขายจะเพิ่มขึ้น 7% YoY เป็น 614 KBOED ในปี 2571F จากการเริ่มเปิดดำเนินการเจ็ดโครงการใหม่ได้แก่ i) Ghasha Hali ซึ่งเป็นโครงการ greenfield ใน UAE (คาดว่าจะสร้างปริมาณยอดขายให้ PTTEP ปีละ 30 KBOED) ใน 1H71F, ii) SK405B, SK438, SK417 และ SK410B ซึ่งเป็นโครงการ greenfield ในมาเลเซีย (คาดว่าจะสร้างปริมาณยอดขายให้ PTTEP ปีละ 23 KBOED) ใน 2H71F และ iii) โครงการ LNG ในโมซัมบิก กำลังการผลิต 13MTA (คาดว่าจะสร้างปริมาณยอดขายให้ PTTEP ปีละ 25 KBOED) ใน 2H71F และ iv) M3 ในเมียนมาร์ ซึ่งเป็นโครงการ greenfield (คาดว่าจะสร้างปริมาณยอดขายให้ PTTEP ปีละ 10 KBOED) ใน 2H71F นอกจากนี้ ยังคาดว่าปริมาณยอดขายในปี 2572F จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% YoY เป็น 621 KBOED เพราะเป็นปีแรกที่จะรับรู้ผลการดำเนินงานของเจ็ดโครงการใหม่เต็มปี แต่อย่างไรก็ตาม PTTEP คาดว่าปริมาณยอดขายจะลดลง 2% YoY เป็น 609 KBOED ในปี 2573F เนื่องจากโครงการสินภูฮ่อมจะหมดอายุในปี 2573F ตามด้วยโครงการ S1 ในปี 2574F
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2569F/2570F ขึ้นอีก 4%/9%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2569F ขึ้นอีก 4% เป็น 5.56 หมื่นล้านบาท และปี 2570F ขึ้นอีก 9% เป็น 5.51 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคาดว่าราคาขายก๊าซจะสูงขึ้น โดยเราปรับเพิ่มสมมติฐานราคาขายก๊าซของ PTTEP ในปี 2569F ขึ้นอีก 4% เป็น US$5.7/mmbtu และในปี 2570F ขึ้นอีก 5% เป็น US$5.5/mmbtu เพื่อสะท้อนถึง i) ประมาณการของผู้บริหารในปีหน้าที่ US$5.7-5.8/mmbtu และ ii) ราคาขายก๊าซจากการโครงการ Block A-18 ในมาเลเซียที่เพิ่งซื้อมา สูงกว่าราคาขายก๊าซจากโครงการเอราวัณและบงกชในประเทศไทย นอกจากนี้ เรายังปรับสมมติฐานปริมาณยอดขายปี 2569F ลงเหลือ 556 KBOED (ต่ำกว่าสมมติฐานเดิม 0.4%) และปี 2570F เป็น 576 KBOED (เพิ่มขึ้นจากสมมติฐานเดิม 3%) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนลงทุนห้าปีฉบับล่าสุด
Valuation & Action
เราปรับลดราคาเป้าหมาย DCF ปี 2569F เป็น 120.00 บาท จาก 124.00 บาท โดยใช้ WACC ที่ 8.7% และปรับลด terminal growth เป็น 0.5% จากเดิม 1.0% เพื่อสะท้อนถึงราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดลง หลังจากที่ OPEC+ เพิ่มการผลิตน้ำมันดิบทุกเดือนจากเดือนเมษายน – ธันวาคม เรายังคงประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2568F ที่ US$70/bbl และปี 2569F ที่ US$65/bbl ซึ่งจะลดลงจาก US$80/bbl ในปี 2567 ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรใน 4Q68F จะฟื้นตัวขึ้น QoQ เนื่องจากคาดว่าปริมาณยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 558 KBOED (+9% QoQ)
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและราคาก๊าซ







