เก่งหลังเกมส์
SET Index พุ่งแรง 19.30 จุด (+1.54%) ปิดที่ระดับ 1,273 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.29 หมื่นล้านบาท (หุ้นปรับขึ้น 306 บริษัท และหุ้นปรับลง 139 บริษัท) ดักเก็งกำไรคาดหวังแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยและมีธีม election rally ในช่วงต้นปีหน้า โดยมี Sector ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, THAI, BA, AAV, CENTEL, AWC), กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA), กลุ่มพลังงาน (PTT, TOP, GULF) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT) ส่วนหุ้นปรับลง คือ OR, KBANK, TLI, MRDIYT, และ MEGA
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ
AOT (+7.00%), BA (+4.20%), THAI (+7.78%), AAV (+6.03%) คาดหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนสอดคล้องกับรายงานตัวเลขจีนรายสัปดาห์ในสัปดาห์ก่อนพุ่งแตะระดับ 8.3 หมื่นคนทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ส่วนหุ้นสายการบินมีจิตวิทยาบวกราคาน้ำมันอากาศยานลดลงในทิศทางเดียวกับน้ำมันดิบช่วยลดต้นทุนและหนุนกำไร ด้าน AAV มีข่าวบวกเฉพาะตัว ตลาดหลักทรัพย์ปรับ ESG Rating เป็น AAA จากเดิมปี 2024 ไม่ได้จัดอันดับเครดิตในดัชนี Thai ESG
AP (+2.94%), SPALI (+1.18%), SIRI (+0.76%) นักลงทุนดักเก็งกำไรก่อนประชุมแบงก์ชาติในวันพุธนี้ (คาดลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%) ส่งผลดีต่อกลุ่มอสังหาฯ โดยตรง ผสานหุ้นกลุ่มอสังหาฯ เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดีให้ Dividend yield สูงจูงใจให้นักลงทุนที่ต้องการปันผลเข้าสะสมก่อนที่บริษัทจะประกาศงบปลายปีและจ่ายปันผลในช่วงต้นปีหน้า
CPALL (+1.70%), CPAXT (+1.90%), BJC (+2.60%) ค้าปลีกเป็นชุดหุ้น Big cap ที่ราคา Underperform ตลาด และ Valuation อยู่ในโซนน่าลงทุน (deep value) เราประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เร่งขึ้นในช่วงปลายปี และ การเลือกตั้งของไทยที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้าจะช่วยหนุนยอดขายให้กับกลุ่มค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
GULF (+3.09%), GPSC (+2.19%) มีจิตวิทยาบวกจาก 1) ค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ระดับ 31.4 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง ลุ้นบันทึก Fx gain เนื่องจากมีหนี้เป็น US Dollar , 2) ดอกเบี้ยขาลงเป็นบวกต่อ Valuation และ 3) ราคาก๊าซธรรมชาติ -2.79%d-d และ -15.2%mtd หนุนมาร์จิ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า spp
OR (-1.50%) มีจิตวิทยาลบจากข่าวรัฐบาลไทยอยู่ระหว่างออกคำสั่งควบคุมพื้นที่เสี่ยงห้ามการขนส่งน้ำมันทางบกและทางเรือไปยังกัมพูชากดดันยอดขายของ OR ซึ่งมีสถานีบริการน้ำมันในกัมพูชา หรือ ในกรณีเลวร้ายบริษัทอาจตั้งด้อยค่าธุรกิจคาดกระทบราว 6.7 พันล้านบาท คิดเป็น Valuation ต่อหุ้นที่ลดลงราว 0.56 บาทต่อหุ้น
