เก่งหลังเกมส์

SET Index ลดลง 12.72 จุด (-1%) ปิดที่ระดับ 1,261 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3 หมื่นล้านบาท (หุ้นปรับขึ้น 181 บริษัท และหุ้นปรับลง 239 บริษัท) ดัชนีปรับลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มอิเล็กฯ และ กลุ่มน้ำมัน จากปัจจัยกดดันเฉพาะตัว กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA) ปรับลงกังวลฟองสบู่ AI, กลุ่มน้ำมันโรงกลั่น และปิโตรฯ (PTT, TOP, PTTGC) ปรับลงตามราคาน้ำมัน ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นช่วยพยุงดัชนี คือ กลุ่มสนามบินและสายการบิน (AOT, AAV, THAI, BA), กลุ่มธนาคาร (BBL, SCB, TTB, TISCO), กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) และกลุ่มอสังหาฯ (SPALI, SIRI, LH)

หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ

DELTA (-5.38%), HANA (-1.82%), KCE (-2.39%) ปรับลงในทิศทางเดียวกับหุ้นกลุ่ม Tech ในตลาดโลกกังวลฟองสบู่ AI ส่วน DELTA ร่วงแรงวิตกนักลงทุนสถาบันขายปรับพอร์ตหลังตลาดฯ ประกาศรายชื่อหุ้น Thai ESG ปี 2568 พบว่าหุ้น DELTA ถูกปรับลด ESG Rating จาก A เป็น Non-rated

PTT (-1.57%), TOP (-2.1%), BCP (-3.64%) มีจิตวิทยาลบจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบหลังยูเครนส่งสัญญาณถอนตัวจากการขอเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม NATO บ่งชี้สถานสู้รบรัสเซียยูเครนใกล้ยุติเปิดโอกาสรัสเซียส่งออกน้ำมันกดดันตลาดจาก over supply

PTTGC (-3.86%) ผิดหวังส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติก HDPE-Naphtha สัปดาห์ล่าสุดลดลงแตะระดับ 291$/ton ลดลง 1.7%w-w และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 สัปดาห์

CENTEL (+5.65%), ITC (-3.18%) มี side effect จากการประกาศรายชื่อ SET50/100 รอบใหม่ โดย CENTEL Surprise ได้ปรับเข้า SET50 เหนือความคาดหมายของตลาดในขณะเดียวกัน ITC ปรับลงเนื่องจากเดิมตลาดคาดว่าจะได้เข้าคำนวณในดัชนี SET50 แต่ประกาศรายชื่อจริงไม่มีรายชื่อใน SET50 ซ้ำร้ายถูกปรับออกจากดัชนี SET100 ด้วย

CK (+3.42%), STECON (+2.65%) คาดนักลงทุนทยอยเข้าสะสมเพื่อดักเก็งกำไรหุ้นการเมืองรับกระแสเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

- Advertisement -