บล.พาย:
FINANCE เติบโตต่อเนื่องในปี 2026 (OVERWEIGHT)
TOP PICK: KTC MTC
คุณภาพสินเชื่อเป็นเป้าหมายหลักภายใต้เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้การขยายสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตปานกลาง 5-6% ในปี 2025-26 บริษัทในกลุ่มไฟแนนซ์ได้อานิสงส์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงลดต้นทุนการเงิน เราคาดกำไรสุทธิรวมเติบโตต่อเนื่องราว 8-9% ในปี 2025-26 จาก (1) สินเชื่อขยายตัวต่อเนื่อง (2) Credit cost ลดลง และ (3) NIM ขยายตัวในปี่ 2026 ด้านคุณภาพสินเชื่อ แม้มีความเปาะบางจากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง เพราะลูกค้าค่อนข้างอ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ ประสิทธิภาพการติดตามหนี้ และมาตรการของรัฐคาดหนี้เสียอยู่ระดับควบคุมได้ นอกจากนี้ Valuation ไม่แพงสะท้อนความกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อไปแล้ว น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” KTC MTC เป็น Top pick
ขยายสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ และนโยบายผ่อนคลายทางการเงินหนุนต้นทุนการเงินลดลง
- เศรษฐกิจไทยใน 4Q25 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำที่สุดของปี 2025 หลังจากเกิดน้ำท่วมภาคใต้ 10 จังหวัด อาจส่งผลให้ปี 2025 เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี ความต้องการสินเชื่อในกลุ่มไมโครไฟแนนซ์จะขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจัยฤดูกาล โดยเฉพาะสินเชื่อบัตรเครดิต และผู้ประกอบการขนาดเล็กมีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คาดว่าสินเชื้อรวมในปี 2025 ขยายตัวปานกลางใกล้เคียงกับในปี 2024 ที่ราว 5% ชะลอลงจากเติบโตสูงเฉลี่ย 14.5% ในปี 2019-2023 เพราะบริษัทให้ความสำคัญต่อการควบคุม คุณภาพสินเชื่อ
- แรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2026 ทำให้มีความจำเป็นที่จะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่อง คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง เหลือ 1% สิ้นปี 2026 หลังจากปรับลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้งในปี 2025 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระการเงินของลูกหนี้ และอัตราเงินเฟ้อยังต่ำ
กำไรสุทธิใน 9M25 แข็งแกร่ง ส่งผลให้กำไรในปี 2025 คาดเติบโตดีขึ้น 8%
- กำไรสุทธิรวมของ 4 บริษัทใน 9M25 (ไม่รวม AEONTS) เติบโต 8% YoY ที่ 18.2 พันล้านบาท หนุนจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นล้อกับการขยายตัวของสินเชื่อ และ (2) สำรองหนี้ฯ ลดลง หลังจากควบคุมหนี้เสียได้ตามเป้าหมาย
- แม้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวต่อเนื่อง แต่คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q25 ปรับลดลง QoQ เพราะกำไรจากพอร์ลงทุนลดลงจาก SAWAD และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นจากขยายธุรกิจ เราคาดกำไรสุทธิรวมในปี 2025 เติบโตต่อเนื่องราว 8% ดีขึ้นจาก +5% ในปี 2024
สินเชื่อขยายตัว และ NIM ฟื้นตัวหนุนคำไรสุทธิขยายตัวต่อเนื่องปี 2026
- คาดกำไรสุทธุรวมในปี 2026 จะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง 9% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมปรับสูงขึ้น บริษัทไมโครไฟแนนซ์ทั้ง 5 แห่งจะรายงานกำไรเติบโต นำโดย MTC ที่คาดกำไรเติบโตสูงราว 13% TIDLOR (+12%) SAWAD (+11%)
- ด้านการจ่ายเงินปันผล กลุ่มไมโครไฟแนนซ์ระดมสภาพคล่องจากแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน และออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อนำมาขยายการเติบโตเป็นหลัก ดังนั้น อัตราการจ่ายเงินปันผลจะไม่สูงมากเหมือนกลุ่มธนาคาร โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 3.8%-4.0% ในปี 2025-26
น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” เติบโตต่อเนื่อง และ Valuation ไม่แพง
- น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” เนื่องจาก (1) การเติบโตต่อเนื่องของกำไรสูงต่อเนื่อง 8-9% ในปี 2025-26 (2) คุณภาพสินเชื่อแนวโน้มทรงตัว (3) อัตราดอกเบี้ยลดลงส่งผลบวกต่อ NIM ปรับเพิ่มขึ้น และ (4) Valuation ที่น่าสนใจสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ Downside risk ค่อนข้างจำกัด กลุ่มฯ ซื้อขายเฉลี่ยที่ 1.2x PBV’26E (-1.75SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 3.3x) และ 8.6x PE’26E PBV’26E (ต่ำกว่า – 2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 18.5x)
- กลุ่มสินเชื่อจำนำ เลือก MTC (1) โดดเด่นในการเติบโตของกำไรในปี 2026 และ (2) ควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี และงบดุลแกร่ง
- กลุ่มบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล เลือก KTC (1) งบดุลแข็งแกร่ง หนี้เสียต่ำ และ Coverage ratio สูงแข็งแกร่ง พร้อมเผชิญความผันผวนในอนาคต (2) ผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5% ในปี 2026 เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ ที่ 4% และ (3) ROE สูงสุดในกลุ่มฯ








