บล.กรุงศรีฯ:

สรุปผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น มุมมอง Hawkish + ดอกเบี้ยสหรัฐฯสู่ขาลง หนุนเงินเยนแข็งค่า จะเป็นลบท่องเที่ยวญี่ปุ่น จะเป็นแรงส่ง Theme “Revival of Service Sector” เน้น CENTEL, AOT, BDMS

Result: 

1.)  ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติสำคัญคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย +0.25% สู่ระดับ 0.75% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี (นับตั้งแต่ปี 1995) หลัง

  • ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core Inflation) ได้ทรงตัวเหนือระดับเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน (สูงกว่าเป้าหมายกว่า 44 เดือนติดต่อกัน)
  • การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานในประเทศมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะกระตุ้นการบริโภคแม้ต้นทุนทางการเงินจะสูงขึ้น

2.) Outlook: ผู้ว่าการคาซูโอะ อุเอดะ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นยังไม่สิ้นสุด (Hawkish Tone) โดย BOJ พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ตลาดตีความว่าเป้าหมายถัดไปอาจเป็นการขยับดอกเบี้ยเข้าสู่ระดับ 1.00% ในช่วงปีหน้า เพื่อให้นโยบายการเงินกลับเข้าสู่ภาวะปกติ (Normalization) อย่างค่อยเป็นค่อยไป 

ทั้งนี้ BOJ มีมุมมองต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในระดับฟื้นตัวปานกลาง แม้มีสัญญานอ่อนแรงในบางภาคส่วน โดยเฉพาะภาคส่งออก/การผลิต ยังอยู่ในระดับทรงตัวจากแรงกดดันของมาตรการภาษีการค้าสหรัฐฯ 

3.) Liquidity Management:  

BoJ ย้ำว่า “แผน QT” คือการ ค่อย ๆ ลดวงเงินซื้อ JGB รายเดือนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและคาดการณ์ได้ (ไม่ได้เน้นขายออกเชิงรุก) โดยกำหนดให้ลดวงเงินซื้อเป็นรายไตรมาส ช่วงแรกลดเร็วกว่า (ราว ไตรมาสละ ~4 แสนล้านเยนจนถึงไตรมาส ม.ค.–มี.ค. 2026) จากนั้น ชะลอความเร็วการลด (ราว ไตรมาสละ ~2 แสนล้านเยนตั้งแต่ เม.ย.–มิ.ย. 2026 ถึง ม.ค.–มี.ค. 2027) เพื่อพาวงเงินซื้อรายเดือนลงสู่ระดับประมาณ 2.0–2.1 ล้านล้านเยน ในช่วงต้นปี 2027 พร้อมระบุว่าจะมี การประเมินรอบถัดไปจะเกิดขึ้นในรอบการประชุม มิ.ย. 2026 ทั้งนี้ BoJ 

ย้ำหลักการเน้นการบริหารสภาพคล่องโดยเน้นความยืดหยุ่น โดยหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวผันผวนหรือปรับขึ้นเร็วผิดปกติ  BOJ เตรียมพร้อมเพิ่มการซื้อหรือปรับแผนเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินให้อยู่ในระดับสูงเพียงพอ

Strategy: เรามองการให้ความเห็นของประธาน BOJ ที่เป็นไปในเชิง Hawkish มีโอกาสเดินหน้าปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกในปี 2026 ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงมากขึ้น ภาพดังกล่าวประกอบกับความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับจีนที่ยังคงมีอยู่สนับสนุนทิศทางค่าเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากระดับปัจจุบัน 

เชื่อมโยงมาประเทศไทย เรามองเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญต่อการฟื้นตัวภาคบริการในปี 2026 หนุนหุ้นธีม “Revival of Service Sector” ที่ Upside กลับมาแบบ Double ทั้งกำไรฟื้นตัว และ Valuation Re-rate สู่ปกติ เน้น

  • CENTEL (TP26F-37.5) ลูกค้าจีน 6% ของทั้งหมด + ธุรกิจหลัก /รองเป็นแรงส่งปี 2026F + หุ้นซื้อขาย PER AVG – 1.0 S.D.
  • AOT (TP-Trading, TP Con-63) เด่นสนามบินหลัก + Upside นักท่องเที่ยว Top Up Earnings Visibility 1-2 ปีนี้กลับเข้ารอบเติบโต
  • BDMS (TP26F-29) ลูกค้าต่างชาติ 30% + สาขาครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวหนุนรับประโยชน์เต็ม + หุ้น Deep Value PER @ AVG – 2.0 S.D.
- Advertisement -