เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับขึ้น +4.22 จุด +0.24% ปิดที่ระดับ 1,275.3 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.82 หมื่นล้านบาท โดย Sector ที่ปรับขึ้นและหนุนดัชนีคือ กลุ่มชิ้นส่วน DELTA กลุ่มโรงพยาบาล BDMS,BH กลุ่ม China Plays (PTTGC, IVL, SCC, PTTEP) ฯลฯ ในทางตรงข้ามกลุ่มที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มขนส่ง (AOT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC) กลุ่มธนาคาร (KTB) ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ
PTTGC +4.35% , IVL +4.43%, SCC +0.53%
กลุ่ม China Plays โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีปรับขึ้นจากเป็นหุ้นที่ Deep Value ของส่วนลดของราคาหุ้นปัจจุบัน vs มูลค่าทดแทน (Replacement Cost) ที่ลึกกว่า Spread ปัจจุบัน vs จุดคุ้มทุน น่าจะเป็นโอกาสอันดีในการค่อยๆ ดึงสถานะกลับ รับอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวแบบ Turnaround ในปี 2026 กลยุทธ์ยังแนะนำ เน้น PTTGC(TP-28), IVL(TP-24)
PTTEP +0.9%
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อและทำจุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ น้ำมันดิบ Brent +0.5%d-d ปิดที่ US$ 62.38/barrel, น้ำมันดิบ West Texas +0.64%d-d ปิดที่ US$ 58.38/barrel แรงหนุนจาก รายงานตัวเลข GDP สหรัฐสูงกว่าคาด ผสาน สงครามรัสเซีย ยูเครนที่ยังมีอยู่และ Dollar ที่อ่อนค่า
GULF -1.16%, GPSC -0.7%
มีจิตวิทยาลบระยะสั้น จากราคาก๊าซธรรมชาติ NYMEX ปรับขึ้นแรง +11.17%d-d ปิดที่ US$4.408/MMBtu KSS View ประเมินเป็นจิตวิทยาลบระยะสั้นต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า
BDMS +2.06%
ราคาหุ้นปรับขึ้นจากมุมมองทางพื้นฐานในโทนบวก 2 ปัจจัย : 1. Valuation ถูกกว่าความจริง ซื้อขายเพียง PER ~17–18x หรือ -2SD ทั้งที่เป็นหุ้น Megatrend + Defensive Core ของกองทุน 2. 4Q25F จะเป็นจุดพีคของปี 2025 กำไรดีที่สุด หนุนแรงเก็งกำไรและการกลับสถานะของสถาบัน คำแนะนำ: “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 29 บาท
CRC +1.65%
ปรับขึ้นปัจจัยสำคัญคือ บริษัท CRC ประกาศขายหุ้น Nguyen Kim ผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในเวียดนามโดยมีมูลค่ากิจการ (EV) ที่ 1.137 พันล้านบาท และจะบันทึกขาดทุนครั้งเดียวที่ 5.9 พันล้านบาทใน 4Q25 KSS ประเมินการขายเงินลงทุนออกไปเป็นผลบวกเล็กน้อยสำหรับ CRC เนื่องจาก Nguyen Kim บันทึกผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 220 ล้านบาทสำหรับ 9M25 ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาทในปี 2025F เนื่องจากจะไม่ขาดทุนจาก Nguyen Kim ในปี 2026F อีกต่อไป จึงอาจเพิ่มกลับเข้าสู่กำไรหลักในปี 2026F หรือประมาณ 4% ในปี 2026F คงคำแนะนำ “NEUTRAL” โดยให้ราคาเป้าหมาย 19 บาท









