บล.กสิกรไทย:
MAJOR มูลค่าน่าสนใจ มีปัจจัยรองรั
ปีแห่งความผิดหวัง
- เราเห็นว่าปี 2568 เป็นปีที่น่าผิดหวังสำหรับ MAJOR แม้ว่าจำนวนภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 17.3% YoY แต่จำนวนตั๋วที่จำหน่ายได้คาดว่าจะลดลง 15.3% YoY ในเชิง YTD กำไรปกติในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 ลดลง 7.5% YoY และราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง 44.1% ปัจจัยฉุดมาจาก 1) ความไม่นิยมของภาพยนตร์ฮอลลีวูด 2) ภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้อประโยชน์ของการบริโภคตามดุลยพินิจในประเทศ และ 3) สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้และสถานการณ์ต่อต้านไทยในกัมพูชา
การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- เราพูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ MAJOR ซึ่งระบุว่าจำนวนภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปี 2569 อาจสูงกว่าปี 2568 ราว 4.1% และสูงกว่าปี 2562 (ระดับก่อนโควิด-19) ประมาณ 7% ในมุมมองของเรา รายชื่อภาพยนตร์ในปี 2569 ดูแข็งแกร่งกว่าปี 2568 โดยภาพยนตร์แอ็กชันภาคต่อจากฮอลลีวูด เช่น Avengers, Dune, Spiderman และ Jumanji น่าจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชมภาพยนตร์ชาวไทยโดยรวม ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์สยองขวัญของไทย เช่น พี่นาค นาคี เป็นต้น น่าจะสามารถตอบโจทย์อุปสงค์ของผู้ชมในต่างจังหวัดกลุ่มหนึ่งได้
- มุมมอง KS : “ซื้อ” เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” MAJOR โดยปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 อิงด้วยวิธี SOTP มาอยู่ที่ 9.2 บาท ปัจจัยหนุนการปรับเพิ่มมูลค่า ได้แก่ 1) การปรับโครงสร้างเชิงบวกทั้งด้านปริมาณและคุณภาพของภาพยนตร์ไทย 2) ความสนใจของ Netflix ในการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ผ่านการจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์และ 3) โมเมนตัมการฟื้นตัวที่คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องในไตรมาส 4/2568 และปี 2569









