เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่คือ “ทางรอด”… ทรู ดิจิทัล ถอดสูตรดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน เจาะลึก Digital Intelligence Fabric  โครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ที่องค์กรไทยต้องมี ในงาน Tech Horizon: Enterprise Edition – Empowering Organization with Digital Intelligence Fabric

ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรธุรกิจไม่สามารถพึ่งพาการปรับตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปได้อีกต่อไป เวทีสัมมนา Tech Horizon: Enterprise Edition – Empowering Organization with Digital Intelligence Fabric ซึ่งจัดโดย ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้นำบริการดิจิทัลครบวงจรในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สะท้อนมุมมองในทิศทางเดียวกันของทั้งภาครัฐและเอกชนว่า “เทคโนโลยีดิจิทัล” ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ที่ชี้ชะตาอนาคต กำหนดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรและประเทศ ในยุคที่บริบทของเทคโนโลยีแห่งอนาคตกำลังหลอมรวมเข้าหากันทั้ง AI, IoT, Cloud, Data และ Cybersecurity โดยไม่อาจถูกมองหรือบริหารแยกส่วนได้เหมือนในอดีต

โครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ทางรอดเดียวขององค์กรในวันที่เทคโนโลยีแบบเดิมเริ่มถึงทางตัน

นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น เผยมุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลยุคใหม่ว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญเทคโนโลยีในอนาคตจะไม่ถูกใช้งานแบบพึ่งพาระบบเพียงระบบเดียวอีกต่อไป แต่จะเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยมี AI เป็นแกนกลาง หากองค์กรยังคงใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้จะยิ่งเพิ่มความซับซ้อน แทนที่จะสร้างความได้เปรียบเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันและเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

ปัญหาในการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลขององค์กรไทยส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่การไม่ปรับใช้เทคโนโลยี แต่คือการลงทุนโดยขาดนโยบายและทิศทางที่ชัดเจนระบบที่เป็นแบบปิด ไม่เชื่อมโยงกัน ข้อมูลไม่พร้อมนำไปใช้ประโยชน์ ขาดการออกแบบระบบอัตโนมัติที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกันจริง เทคโนโลยีมีความยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งต้องลงทุนสูงในขณะที่ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ตามที่คาดหวัง กลายเป็นการเพิ่มภาระด้านต้นทุนและการดูแลระบบ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยข้อเด่นของเทคโนโลยียุคใหม่ที่มีคุณลักษณะสำคัญ คือ เป็นระบบอัตโนมัติ (Automation) ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน ลงทุนแล้วคุ้มค่า และสร้างผลตอบแทนได้ ยืดหยุ่น คล่องตัว เชื่อมต่อทุกระบบได้อย่างไร้รอยต่อ และต้องเป็นโครงสร้างแบบเปิด เพื่อให้สามารถต่อยอดและทำงานร่วมกับระบบอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเอกราช ชี้ชัดว่า องค์กรต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ประกอบด้วย 3 ระดับ โดยมีพื้นฐานเป็นโครงข่ายการเชื่อมต่อ (Connectivity) ที่ต้องมีความอัจฉริยะ ปลอดภัย สามารถบริหารลำดับความสำคัญของการใช้งานได้ และเสริมด้วย Digital Intelligence Fabric ที่เชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ได้กับทุกองค์กร รวมถึงระดับบนสุดคือ On-demand Applications เช่น ERP และ CRM ที่องค์กรสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ  ทั้งนี้ เทคโนโลยีจะมีความหมายก็ต่อเมื่อถูกควบรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธุรกิจด้วยคนที่มีความเข้าใจ และภายใต้ความเข้าใจในบริบทขององค์กรอย่างแท้จริง การผสานกลยุทธ์ธุรกิจเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เหมาะสม คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์กรแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

Digital Transformation กุญแจปลดล็อกโอกาสเศรษฐกิจไทยกว่า 1.8 ล้านล้านบาท

ดร.ปรีสาร รักวาทิน รักษาการรองผู้อำนวยการ กลุ่มงานส่งเสริมการประยุกต์ใช้ดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เผยมุมมองของหน่วยงานภาครัฐที่มุ่งขับเคลื่อนระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้แข็งแกร่ง สะท้อนภาพในระดับประเทศว่า Digital Transformation ไม่ใช่เพียงเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร แต่เป็นปัจจัยชี้ขาดต่อความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย โดยการประเมินล่าสุดพบว่า หากประเทศไทยไม่เร่งปรับตัว อาจสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจกว่า 1.8 ล้านล้านบาท จากการที่องค์กรยังคงดำเนินงานในรูปแบบเดิมและไม่ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ การพึ่งพาแรงงานและระบบ Manual รวมถึงการตัดสินใจจากประสบการณ์หรือความรู้สึกมากกว่าการใช้ข้อมูลและระบบวิเคราะห์ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียที่มองไม่เห็น และทำให้การเติบโตของประเทศเป็นแบบคงที่ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านสามารถขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด

อุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการไม่ได้มีเพียงเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและเงินลงทุน แต่ยังรวมถึงความไม่มั่นใจในเทคโนโลยี การไม่รู้ว่าจะเลือกโซลูชันใดให้เหมาะสมกับธุรกิจ และความกังวลว่าบุคลากรจะสามารถใช้งานระบบได้จริงหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ depa จึงพัฒนากลไกสนับสนุนแบบครบวงจร ตั้งแต่มาตรฐาน dSURE เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ผ่านกลไก บัญชีบริการดิจิทัล (Thailand Digital Catalog) ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงโซลูชันที่เชื่อถือได้ ไปจนถึงมาตรการสนับสนุนด้านงบประมาณ สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการพัฒนาทักษะบุคลากรผ่าน Digital Skill Roadmap นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน อย่าง ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่องค์กรทุกขนาดสามารถเข้าถึง ใช้งาน และต่อยอดได้จริง

Digital Intelligence Fabric กับ 8 โซลูชันอัจฉริยะสำหรับองค์กรธุรกิจทุกขนาด

Digital Intelligence Fabric เทคโนโลยีดิจิทัลที่ถักทอเชื่อมโยงตั้งแต่ระดับโครงสร้างพื้นฐาน คือ การเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายทั้งโมบายล์และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ต่อยอดเชื่อมต่อไปจนถึงระดับซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน เสริมพลังระบบต่างๆ ขององค์กรให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และทำให้การใช้เทคโนโลยีเกิดผลลัพธ์จริง ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

– Vertical Cloud with Embedded Security — คลาวด์อัจฉริยะพร้อมระบบความปลอดภัยในตัว

– Connectivity & IoT Platform — เชื่อมทุกสิ่งรอบตัว ทั้งอุปกรณ์ เครื่องจักร และเซ็นเซอร์ต่างๆ เข้ากับโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ

– Computer Vision AI — เปลี่ยนกล้องวงจรปิดเดิมให้ฉลาดขึ้นทันทีด้วย AI โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์

– Connected Building & Energy Management — แพลตฟอร์มบริหารอาคารและพลังงานเพื่อประหยัดต้นทุนและตอบโจทย์ความยั่งยืน (Sustainability)

– Smart Logistics & Supply Chain — ระบบจัดการขนส่งและซัพพลายเชนแบบอัจฉริยะ

– Data & AI Platform — ดึงพลังจากข้อมูลทุกแหล่งเพื่อนำไปสร้างรายได้ ลดต้นทุน และเร่งการสร้าง AI ให้เร็วขึ้น

– Managed Cybersecurity — ระบบความปลอดภัยครบวงจรที่ช่วยปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามยุคใหม่ตลอด 24/7

– Digital Skill & Development — ยกระดับคนให้พร้อมเติบโตไปกับเทคโนโลยี

องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกใช้โซลูชันเหล่านี้ได้ตามความต้องการ และบริหารจัดการบนแพลตฟอร์มศูนย์กลาง หรือ Unified Intelligence Center แพลตฟอร์มเดียวรองรับหลายโซลูชัน เชื่อมทุกระบบไว้ในแดชบอร์ดเดียว ช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็น วิเคราะห์ แจ้งเตือนและสั่งการได้จากจุดเดียว พร้อมต่อยอดการพัฒนาธุรกิจ แก้ปัญหาและสร้างผลลัพธ์ด้านความเร็ว การลงทุน และ ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุปจากงาน Tech Horizon:
Enterprise Edition – Empowering Organization with Digital Intelligence Fabric สะท้อนชัดว่าอนาคตขององค์กรไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับการมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมทุกระบบและข้อมูลเข้าด้วยกันได้อย่างชาญฉลาด Digital Intelligence Fabric จึงไม่ใช่เพียงแนวคิดเชิงเทคนิค แต่เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ ช่วยให้องค์กรเริ่มต้นจากจุดที่เหมาะสม ลงทุนอย่างคุ้มค่า ขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรมได้จริง

- Advertisement -