AIMIRT เดินหน้าลงทุนโครงการแอลฟา บางนา กม.22′ เสริมพอร์ตคลังห้องเย็นบนทำเลยุทธศาสตร์ รองรับอุปสงค์อุตสาหกรรมอาหารและเวชภัณฑ์

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ เดินหน้าขยายพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศความสำเร็จในการเข้าลงทุน โครงการแอลฟา บางนา กม.22 มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 660 ล้านบาท ซึ่งเป็นคลังห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิแบบ Multi-Temperature บนทำเลเชิงยุทธศาสตร์บางนาตราด จังหวัดสมุทรปราการ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยา และเวชภัณฑ์ การลงทุนครั้งนี้เป็นการเข้าลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ระยะเวลาประมาณ 27 ปี ครอบคลุมที่ดินประมาณ 24 ไร่ มีพื้นที่อาคารให้เช่ารวม 21,660 ตารางเมตร และพื้นที่หลังคาให้เช่าอีก 7,180 ตารางเมตร ซึ่งช่วยสนับสนุนความมั่นคงของกระแสเงินสดในระยะยาว จากโครงสร้างสัญญาเช่าระยะยาวควบคู่กับอุปสงค์การใช้งานที่มีความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในคลังห้องเย็นโครงการแอลฟา บางนา กม.22 เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกองทรัสต์ในการคัดเลือกทรัพย์สินอุตสาหกรรมคุณภาพ โดยโครงการดังกล่าวมีจุดเด่นในฐานะเป็นคลังสินค้าออนไลน์สำหรับธุรกิจ E-Commerce แบบควบคุมอุณหภูมิแห่งแรกของประเทศไทย รองรับระบบการจัดเก็บอัตโนมัติ และสามารถตอบโจทย์การบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

นอกจากนี้ โครงการยังมีศักยภาพในการสร้างรายได้ในระยะยาว จากสัญญาเช่าระยะยาวกับผู้เช่าที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งมีลูกค้าปลายทางอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยา และเวชภัณฑ์ ที่มีความต้องการใช้พื้นที่ควบคุมอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องและไม่ผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ส่งผลให้การลงทุนครั้งนี้ช่วยเสริมเสถียรภาพของกระแสเงินสด และคุณภาพรายได้ของกองทรัสต์ในระยะยาว 

นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเชิงกลยุทธ์ มองเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างชัดเจนของอุตสาหกรรมคลังห้องเย็นและระบบโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้อง (Cold Chain Logistics) ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น ความมั่นคงทางอาหาร การขยายตัวของอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงการปรับตัวของห่วงโซ่อุปทานในภาคธุรกิจ 

การเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวจึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตการลงทุน เพิ่มความสามารถในการรักษาระดับผลตอบแทน และสนับสนุนการกระจายความเสี่ยงของโครงสร้างรายได้ในระยะยาว โดยภายหลังการลงทุน ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากทรัพย์สินประเภทคลังห้องเย็นของกองทรัสต์เพิ่มขึ้นจากประมาณ 12% เป็นประมาณ 18% ซึ่งช่วยลดการกระจุกตัวของรายได้ และสนับสนุนการบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว

- Advertisement -