บล.กรุงศรีฯ:
SET Index นับตั้งแต่ 1 ม.ค. – 30 ธ.ค. ปรับลงรวม 141 จุด – 10.1% ปิดตลาดที่ 1259.6 จุด แรงกดดันหลักในปีนี้มาจาก 1.)สงครามการค้า สหรัฐ : เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าทั่วโลกรวมถึงไทย 2.)การเมืองภายในประเทศ การยุบสภาและจะนำไปสู่การเลือกตั้งปี 2026 3.)การปรับลดคาดการณ์ GDP Growth & Market EPS 2025 ของไทยต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี ฯลฯ โดยรวมเป็นปัจจัยหนุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปีรวมราว 1 แสนล้านบาท
Sector หุ้นไทยที่เคลื่อนไหวเด่นที่สุดทั้งปรับขึ้นและปรับลงแรง 3 กลุ่มคือ
กลุ่มปรับขึ้น
BANK +18%
นำโดย KTB, KKP, KBANK, SCB, TCAP, TISCO แม้อัตราดอกเบี้ยไทยจะปรับลงในปี 2025 แต่ตลาดมองเป็นกลุ่ม value play เพราะโดยธนาคารเน้นการบริหารเงินทุน โดยเฉพาะการจ่ายปันผล โดยจุดดึงดูดของกลุ่มธนาคาร คือ ปันผลระดับสูง dividend yield คาดที่ 6-8% ต่อปี
Electronic +7.66%
นำโดย DELTA ปรับขึ้นตามหุ้น Tech โลกและสหรัฐที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ผสานบริษัทรายงานกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-time High) จากกระแส AI สัดส่วนรายได้ AI ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการชิ้นส่วนใน Data Center
Property Fund & REIT +0.7%
นำโดย TU-PF, INETRIET, TLHPF, MJLF ฯลฯ แรงหนุนจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกและไทยเป็นขาลง
กลุ่มที่ปรับลง
Media -55% นำโดย MAJOR, BEC, ONEE, AQUA, MONO, MCOT, PLANB ฯลฯ แรงกดดันมาจาก แนวโน้มอุตฯ สื่อเม็ดเงินโฆษณาลดลง จากเศรษฐกิจภายในฟื้นตัวช้า จากบรรยากาศการถวายความอาลัย ปัจจัยลบจากอุทกภัยภาคใต้ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และความไม่แน่นอนทางการเมือง
Commerce –31.7% นำโดย DOHOME GLOBAL, CRC, CPAXT, CPALL แรงกดดันจากเศรษฐกิจภายในฟื้นตัวช้า ปัจจัยลบจากอุทกภัยภาคใต้ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และความไม่แน่นอนทางการเมือง
Finance – 32% นำโดย CHAYO, JMT, KTC, SAWAD,MTC ฯลฯ แรงกดดันจากเศรษฐกิจภายในฟื้นตัวช้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง ฯลฯ
Outlook ตลาดหุ้นไทยปี 2026
KSS ประเมินดัชนีเป้าหมาย (SET Target) ปี 2026F ที่ 1,475 จุด ฟื้นบนฐานกำไรและก้าวข้าม ปีแห่งการ De-rated
โดยมีธีมหนุนตลาดหลักๆ คือ ดอกเบี้ยขาลง, AI CAPEX cycle, China Reflation, นโยบายการเงินไทยที่ผ่อนคลาย, Election Rally และการฟื้นตัวของภาคบริการและ Infra Tech
หุ้นแนะนำ 1Q26 / 2026F : ADVANC, BDMS, CENTEL, CPALL, EGCO, GULF, KBANK, IVL, MTC, PTTGC









