บล.ทรีนีตี้:

ไซมิส แอสเสท จำกัด – SA

กำไร 3Q64 ฟื้นตัว QoQ และพร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565

  • SA รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 33.8 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 24.4% QoQ แต่ปรับตัวลดลง 82.3% YoY
  • มีรายได้จากการโอนใน 3Q64 อยู่ที่ 486.8 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 9.9% QoQ และ 61.8% YOY
  • คาด 4Q64 ฟื้นตัวได้ QoQ จากมาตรการต่างๆ ที่ผ่อนคลายลง หนุนยอดโอนและรายได้จากกลุ่มบริการประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 14.00 บาท จากวิธี P/E 17.5X สูงกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทมีการกระจายรายได้ไปยังกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร การขายสินค้า IT และธุรกิจ AMC

3Q64 Earnings Review

  • รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 33.8 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 24.4% QoQ แต่ปรับตัวลดลง 82.3% YoY โดยที่มีรายได้จากการโอนอยู่ที่ 486.8 ล้านบาทปรับตัวลดลง 9.9% QoQ และ 61.8% YoY
  • รายได้จากการบริการอยู่ที่ 26.9 ล้านบาท โดยที่เป็นรายได้จากโครงการ Q Box Hotel และรายได้จากกลุ่มร้านอาหาร
  • Gross Margin ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ใน 3Q64 อยู่ที่ 40.0% ปรับตัวสูงขึ้นจาก 38.6% ใน 2Q64 และ 38.8% ใน 3Q63
  • กำไร 9M64 อยู่ที่ 108.1 ล้านบาทปรับตัวลดลง 73.8% YoY โดยที่มีรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 1.67 พันล้านบาท

คาด 4Q64 ฟื้นตัวได้ QoQ

คาด 4Q64 จะมีผลประกอบการที่ฟื้นตัวได้ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการผ่อนปรนมาตรการ LTV และการปลด Lockdown ที่จะช่วยให้ยอด Visit โครงการสูงขึ้น พร้อมทั้งการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ที่จะช่วยหนุนทั้งยอดโอนและยอดขายกลุ่มบริการ คาดว่ารายได้จากโรงแรมจะฟื้นตัวดีขึ้นจากการเปิดประเทศในช่วงเดือนพ.ย. 2564  และร้านอาหารที่อนุญาตให้ Dine In เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ 4Q64 และการฟื้นตัวต่อเนื่องไปยังปี 2565

ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 เท่ากับ 14.00 บาท

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 14.00 บาท/หุ้น จาก EPS 2565F ที่ 0.80 บาท/หุ้นโดยอิงค่า P/E ที่ 17.5X ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 10X จากธุรกิจของบริษัทที่มีความหลากหลายทั้งจากธุรกิจเช่าระยะยาวของ Serviced Apartment ร้านอาหารและ Cloud Kitchen และธุรกิจ AMC รวมทั้งความน่าสนใจการใช้ Branded Residence เข้ามาบริหารโครงการเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่โครงการและยังไม่เน้นใช้การลดราคาจึงยังสามารถ Maintain Margin ได้ในระดับสูงที่ 35-40%

ความเสี่ยง: เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว, การระบาดของ COVID-19 ที่ยาวนาน, การแข่งขันและการลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย, ลูกค้าต่างชาติยังไม่ฟื้นตัว, มาตรการ LIV

- Advertisement -