บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

Strategy Update – หลังประชุมกนง.

การปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.75% เป็น Sentiment บวกและหนุนสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น อย่างไรก็ตามจากประมาณการเศรษฐกิจใหม่ของธปท.เรามีมุมมองค่อนข้างเป็นลบ

– สมมติฐานของธปท.สำหรับ Scenario อ้างอิง คือ ทุกประเทศจะถูกเก็บภาษี 10% จีน 54% ส่วนสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็ก อลูมิเนียมถูกเก็บ 25%

– สมมติฐานของธปท.สำหรับ Scenario ทางเลือก คือ ทุกประเทศเจรจาลดภาษีได้ครึ่งหนึ่ง (ไทยเหลือ 18%) จีน 72.5% ส่วนสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็ก อลูมิเนียมถูกเก็บ 25%

ทั้ง 2 Scenario ธปท.คาดว่าจะทำให้ GDP ปี 2025 โต 2% และ 1.3% ตามลำดับ ส่วนปี 2026 คาดเติบโต 1.8% และ 1% ตามลำดับ 

จากตัวเลขประมาณการดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตช้าลงอย่างมีนัยยะในปี 2025 และโดยเฉพาะปี 2026 ที่แรงประคองจากการลงทุนภาครัฐต่ำลง ขณะที่ความสามารถของรัฐบาลในการประตุ้นเศรษฐกิจมีจำกัดจากระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่สูง ทำให้ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาวต่ำลง และทำให้ Valuation ควรจะถูก Discount จากในอดีต

เราจึงยังมองว่ากลุ่ม Consumer Staple (สินค้าบริการจำเป็น) เช่น ค้าปลีก อาหาร การแพทย์ สื่อสารฯ โรงไฟฟ้า ไฟแนนซ์ คาดว่าจะยังคงปรับตัวได้ดีกว่าตลาด แนะนำ CPALL NSL OSP BDMS PR9 ADVANC GULF MTC ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวเรายังมองบวกระยะยาว หากเริ่มเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว เรามองเป็นจังหวะสะสม AAV CENTEL ERW

- Advertisement -