PST Market Move: “ข้างนอกคุยกันได้ แต่ข้างในไม่แน่นอน” / 1,120 – 1,245
คาด SET Index เปิดกระโดดขึ้นและแกว่งตัวในแดนบวก: แรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกที่มีแนวโน้มมีน้ำหนักมากจากการที่สหรัฐฯ กับจีนมีการลดภาษีศุลกากรต่อกันชั่วคราว หากแต่ยังมี Sentiment เชิงลบจากความไม่แน่นอนของการเมืองและนโยบายทางเศรษฐกิจในประเทศ จำกัดเพดานทางขึ้นไว้
กลยุทธ์การลงทุน
- เก็งงบ 1Q68: BCH, BDMS, BEM, BTG, CK, CPF, GFPT, STECON, TFG, TTW
- Thai ESGX: ADVANC, AMATA, BBL, GULF, KBANK, KTB, PTT, TTB, WHA
- พลังงาน + China play: BCP, PTTEP, PTTGC, SCC, SPRC, TOP
- Selective: PT, TVO
- สหรัฐฯ กับจีนหั่นภาษีระหว่างกัน: คาด Sentiment เชิงบวก ซึ่งมีแนวโน้มมีน้ำหนักมากต่อ SET Index ในวันนี้ มาจากแถลงการณ์ภายหลังการเจรจาการค้าระหว่าง 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งระบุว่าสหรัฐฯ และจีนเห็นพ้องให้มีการลดภาษีศุลกากรระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน มีผลภายในวันที่ 14 พ.ค. 68 โดยจีนจะลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ บางรายการเหลือ 10% จาก 125% ส่วนสหรัฐฯ ลดภาษีให้จีนเหลือ 30% จาก 145% อีกทั้งแถลงการณ์ยังระบุว่าทั้ง 2 ประเทศจะจัดตั้งกลไกเพื่อสานต่อการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าในระยะถัดไป และรมว.คลังสหรัฐฯ ยังยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องว่าไม่ต้องการแยกขาดจากกันทางเศรษฐกิจ ภาพข้างต้นช่วยคลายความกังวลต่อภาพสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการค้าและเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ยังมีลุ้นพัฒนาการเชิงบวกเพิ่มเติม หลังปธน.ทรัมป์เผยว่าเขาอาจจะสนทนาทางโทรศัพท์กับปธน. สี จิ้นผิงในปลายสัปดาห์นี้
- การเมืองและนโยบายรัฐไม่แน่นอน: อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นมีเพดานจำกัด ท่ามกลางความกังวลภาพการเมืองไทย ทั้งจากประเด็นที่มีการออกหมายเรียก ส.ว. ปมฮั้วเลือกตั้ง และการที่แพทยสภาลงโทษแพทย์ 3 ราย จากการพักรักษาตัวของคุณทักษิณที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ นอกจากนี้ รอติดตามบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ หลัง รมช.คลัง เผยจะนัดประชุมเร็วที่สุดสัปดาห์นี้ เพื่อทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทางฝ่ายมองว่ารัฐบาลอาจต้องการจัดลำดับความสำคัญของมาตรการทางเศรษฐกิจ รวมถึงรักษากระสุนทางการคลังไว้ สอดรับกับการที่ผู้ว่าการ ธปท. คาดว่าผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจไทยจะชัดขึ้นในช่วง 2H68 ภาพเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจเป็นรูปของ V shape แบบขากว้าง ซึ่งจะเริ่มเห็นเศรษฐกิจไทยชะลอตัวตั้งแต่ 3Q68 และน่าจะลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดใน 4Q68 ดังนั้นจึงต้องรอติดตามว่าโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท จะเดินหน้าต่อในเฟสวัยรุ่นและกลุ่มวัยทำงานหรือไม่
- ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ: ขณะที่ปัจจัยติดตามในคืนนี้ ได้แก่ การเผย CPI เดือน เม.ย. 68 ของสหรัฐฯ ตลาดคาด Headline ที่ +2.4% y-y และ +0.3% m-m จาก +2.4% y-y และ -0.1% m-m ในเดือน มี.ค. 68 ส่วน Core คาด +2.8% y-y และ +0.3% m-m จาก +2.8% y-y และ +0.1% m-m ในเดือน มี.ค. 68
+ ปัจจัยเพิ่มเติม –
(+) คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะได้ Sentiment หนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 1.52% ปิดที่ 61.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว
(+) ยอดขายรถยนต์ของจีนในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 14.9% y-y เติบโตเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ที่รัฐบาลจีนอุดหนุน ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค
(-) สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “คนไทยกับการรับมือปัญหาเศรษฐกิจ”) โดยความรู้สึกของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ส่วนใหญ่ 51.59% ค่อนข้างกังวล รองลงมา 40.60% มีความกังวลมาก (
(-) MIGROUP มองว่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาของไทยในปี 68 จะเติบโตเพียง 2.2% ลดลงจาก 4.5% ที่คาดไว้ตอนต้นปี ซึ่งยังไม่มีปัจจัยลบจากภาษี ปธน.ทรัมป์)
PICKS OF THE DAY
CPF BUY
- เป้าหมาย 27.00 / 27.50 แนวรับ 26.00
- คาดกำไร 1Q68 ยังสดใส: คาดการณ์ยอดขาย 1Q68 ที่ 143,750 ลบ. -3.2% q-q, +2.7% y-y โต y-y จากราคาหมูที่สูงขึ้น ส่วน GPM คาดที่ 15.5% -20 bps q-q, +350 bps y-y เพิ่ม y-y จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงและไม่ได้รับผลกระทบจากหมูเถื่อนเหมือนใน 1Q67 คาดกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 4,569 ลบ. +9.5% q-q, +296.6% y-y
- ราคาหมูยังทรงตัวในระดับสูง : ในวันที่ 12 พฤษภาคม ราคาหมูหน้าฟาร์มตามประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอยู่ที่ 88 บาทต่อกก. +17.2% y-y เป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มยอดขายและ GPM ของ CPF อย่างไรก็ตาม ราคาหมูที่สูงขึ้นอาจส่งผลให้ปริมาณการขายเนื้อหมูลดลงเพราะผู้บริโภคอาจเปลี่ยนไปบริโภคโปรตีนที่ราคาถูกกว่าเช่นเนื้อไก่
WHA BUY
- เป้าหมาย 3.30 / 3.42 แนวรับ 3.12
- 1Q68 กำไรสูงกว่าตลาดคาด: 1Q68 ประกาศกำไรสุทธิ 2,075 ลบ. +52.1% y-y +66.5%q-q มากกว่าที่ฝ่ายฯและตลาดคาด มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นจากธุรกิจนิคมเป็นหลัก จากการโอนที่ดินได้ถึง 843 ไร่ สูงขึ้น y-y และ q-q มีโอน big lots ลูกค้า Data center และทำให้มีราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้นที่ 5.2 ลบ./ไร่ ทำ GPM 58.8% สูงกว่าปีก่อนหน้าที่ทำได้ 54.0%
- แนวโน้มกำไรปี 68 มีลุ้น All time high: แนวโน้ม 1Q68 อาจเห็นกำไรเป็นจุดสูงสุดของปี แต่ยังมี big lots ที่จะเข้ามาอีกในช่วง 2H68 ทำให้แนวโน้มกำไรในปีนี้มีลุ้น All time high โดยทางฝ่ายฯคาดกำไรปี 68 ไว้ที่ 5,373 ลบ. +23.3%y-y