บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 14/05/68

Daily Focus: Trade Deal หนุน // แต่เศรษฐกิจไทยชะลอยังจำกัด Upside

2025 SET Target: 1180

ตลาดหุ้นวันนี้: SET Index ปรับตัวขึ้นได้ดีตามคาดในช่วงเช้า หนุนจากผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนออกมาเป็นบวกกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายดัชนีทยอยซึมตัวลง ก่อนปิดบวกเหลือเพียง 3.45 จุด ณ สิ้นวันที่ระดับ 1,214.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น 5.1 หมื่นลบ. กลุ่มที่ปรับตัวได้ดีคือ China-Export Play ส่วนกลุ่ม Defensive ถูกขายทำกำไร สถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 780 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 2.5 พันลบ. (และ Short Index Futures สุทธิอีก 6 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways Up ในกรอบ 1,210–1,230 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนยังค่อนไปในแดนบวก ทั้งสถานการณ์สงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือนเม.ย. ที่ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย โดย Headline +0.2% m-m, +2.3% y-y ซึ่งภาพรวมยังเป็นต่อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งจากความเสี่ยง Recession ที่ลดลง ขณะที่เงินเฟ้อไม่ได้กดดัน FED เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาการค้ากับหลายประเทศในเอเชียเป็นไปได้ด้วยดี รวมถึงไทยที่มีข้อเสนอที่ดี ซึ่งต้องติดตามว่าจะได้คิวเจรจาการค้าเมื่อไร

ส่วนด้านผลประกอบการ 1Q25 ของ บจ. ล่าสุดที่ประกาศออกมาแล้ว โดยรวมดีกว่าที่ตลาดคาด 6% หนุนจากหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก ขณะที่ภาพรวม Bloomberg EPS ของ SET ปัจจุบันทรงตัวที่ราว 90 บาท หลังจากถูกปรับลงจากเดือนก่อนที่ราว 93 บาท เรายังมองว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการใช้จ่ายจะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มกำไร บจ. ใน 2Q25–2H25 รวมถึงจำกัด Upside ของ SET Index มากขึ้น

กลยุทธ์: ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 1Q25–2025 แข็งแกร่ง โดยเน้นกลุ่มสินค้าและบริการจำเป็นท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

หุ้นเด่นเดือน พ.ค.: CPALL, MTC, NSL, OSP, PR9

FSSIA Portfolio: BA, BTG, CPALL, KBANK, MTC, NSL, PR9, STECON

หุ้นเด่น Finansia 14 พ.ค. 25 : CPALL

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท
• ประกาศกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 7.6 พันลบ. +9% q-q, +26% y-y ดีกว่าเราและตลาดคาดถึง 10% จากค่าใช้จ่าย SG&A และดอกเบี้ยจ่ายที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ราไยด้เติบโตแข็งแกร่ง 5% y-y 
• แม้ฤดูร้อนปีนี้จะไม่ร้อนหนักเหมือนปีก่อนซึ่งอาจกระทบต่อยอดขายเครื่องดื่มและ SSSG ในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าธุรกิจของ CPALL ที่ขายสินค้าจำเป็นจะยังแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่วนการซื้อหุ้นคืน 150 ล้านหุ้น (วงเงินไม่เกิน 7.5 พันลบ.) คาดช่วงจำกัด Downside ของราคาหุ้น 
• แนวรับ 50//49 บาท แนวต้าน 53//54 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าภูมิภาคสุทธิต่อเนื่องอีก US$650 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$572 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$151 ล้าน ส่วนฝั่งอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทิศทางไหลออก นำโดยไทย US$74 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า หลังเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือนเม.ย. ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และยังคงตอบรับเชิงบวกต่อสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง

ประเด็นสำคัญวันนี้

กลุ่มเกษตรอาหาร: เนื้อสัตว์ดีมาก / ยางดี / เครื่องดื่มไม่ดี / ร้านอาหารไม่ดี

(+) TFG กำไร 1Q25 ดีกว่าคาด 11% ทำจุดสูงสุดใหม่

(+) BTG กำไร 1Q25 ดีกว่าคาด 8% โตแรงทั้ง q-q และ y-y

(+) STA/STGT กำไร 1Q25 ดีทั้งคู่ ฟื้นตัวทั้งยางธรรมชาติและถุงมือยาง แต่ STA น่าจะอ่อนลงใน 3Q25 ตามราคายาง SICOM ที่ลดลง

(0) NEO กำไร 1Q25 ใกล้เคียงคาด น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี

(-) ICHI กำไร 1Q25 ต่ำกว่าคาด แต่น่าจะฟื้นใน 2Q25 และขายที่ดินเสร็จแล้ว

(-) M กำไร 1Q25 คาดไว้ต่ำแล้ว แต่ยังต่ำกว่าคาดอีก 21% ลดลงทั้ง q-q และ y-y

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

(-) KCE กำไรสุทธิ 1Q25 ยังไม่ฟื้น -18% q-q, -55% y-y อัตรากำไรขั้นต้นยังหดตัวลงต่อ

(-) HANA กำไรสุทธิ 1Q25 เหมือนจะฟื้นดี แต่มีการกลับรายการสินค้าคงเหลือและสินค้าล้าสมัย หากดูรายได้ยังลดลงทั้ง q-q และ y-y

(0) CCET กำไรปกติ 1Q25 ที่ 849 ลบ. +22% q-q, +8.7% y-y ถือว่ายังทำได้ดี รายได้รวมยังเติบโต y-y และรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 5.3% ใกล้เคียงปีก่อน

(+) NSL กำไรดีกว่าคาด 8% ทำ New High ทั้งรายได้และกำไรอย่างน่าประทับใจ กำไรสุทธิ 1Q25 เท่ากับ 171 ลบ. +16% q-q, +34% y-y ดีกว่าคาดจากทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด ถือเป็นกำไรที่ดีมาก เราปรับประมาณการและราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 45 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) MTC กำไร 1Q25 ออกมา New High ตามที่เราคาด ที่ 1.57 พันลบ. +13% y-y, +2% q-q การตั้งสำรอง credit cost ออกมาดีกว่าที่เราคาดที่ 2.4% แต่ถูกชดเชยด้วยผลตอบแทนสินเชื่อ loan yield ที่ออกมาน้อยกว่าคาด NPL ratio 2.69% ลดลงเล็กน้อย และสินเชื่อโต 13.5% y-y, 2% q-q ตามคาด คงประมาณการและราคาเป้าหมาย 56 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) KCG กำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 122 ลบ. -25% q-q ตามฤดูกาล แต่ +71% y-y ดีกว่าคาด 5% หลักๆ มาจากรายได้ที่เติบโตสูงกว่าคาด แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q25 คาดว่าจะลดลงชะลอตัว q-q จาก low season แต่จะเพิ่มขึ้น y-y บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2025 +8% y-y เน้นขยายลูกค้ารายใหญ่และการออกสินค้าใหม่ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ที่ 447 ลบ. +10% y-y และปี 2026 +15% y-y ราคาเป้าหมาย 11 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(-) SPALI กำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 405 ลบ. -80% q-q, -34% y-y เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี ต่ำกว่าเราและตลาดคาด 14% จากรายได้อื่นน้อยกว่าคาด แนวโน้มกำไร 2Q25 คาดทยอยฟื้น q-q แต่หดตัว y-y กำไร 1Q25 คิดเป็นเพียง 9% ของประมาณการทั้งปีที่ 4.3 พันลบ. -30% y-y ยังแนะนำ “ขาย” ประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 2 พันลบ. ตั้งแต่ 19 พ.ค. ถึง 18 พ.ย. 2025

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 269.67 จุด หรือ -0.64%, ปิดที่ 42,140.43 จุด โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้น UnitedHealth ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อตลาด

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาดและข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเริ่มแผ่วลง นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแบบผสมผสาน

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก หลังสงครามการค้ามีท่าทีผ่อนคลายลง

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าอยู่ที่บริเวณ 33.24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรือ +0.50%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2.78% ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์/บาร์เรล จากข้อตกลงการค้าชั่วคราวและ CPI ต่ำกว่าคาด เช้านี้ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 63.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.08%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 19.80 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 3,247.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงเก็งกำไรหลังราคาร่วงแรง และหนุนจาก CPI ต่ำกว่าคาด เช้านี้อยู่ที่ 3,259.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.35%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 936.51 ตัน ลดลง -0.27%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- Advertisement -