บล.กรุงศรีฯ:

เก่งหลังเกมส์

SET Index เพิ่มขึ้น 2.07 จุด (+0.18%) ปิดที่ระดับ 1,178 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.76 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 223 บริษัท, หุ้นปรับลง 236 บริษัท) นักลงทุนอยู่ระหว่างย่อยข้อมูลหลังภาพการค้าไทยเดือน เม.ย. มียอดขาดดุลการค้าเร่งขึ้นเป็น 3.3 พันล้านเหรียญมากสุดในรอบ 27 เดือน Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA), ICT (ADVANC, TRUE), ปิโตรฯ (PTTGC, IVL, SCC) และ Finance (MTC, TIDLOR) ส่วน Sector ปรับลง คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM, GPSC), กลุ่มส่งออกอาหาร (CPF, GFPT, BTG, TFG) และ กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CRC) 

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

GULF (-2.08%), BGRIM (-0.98%) ปรับลงจากข่าวการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ปรับลดราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในกลุ่มที่เซ็น PPA และ COD ในโครงการที่มีค่าไฟฟ้าเกินระดับ 7 Cent/kWh ซึ่งนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์เช้านี้ประเมินเป็นจิตวิทยาลบกับหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีโครงการในเวียดนามและมีค่าไฟฟ้าขายสูงกว่า 7 Cent/kWh ประกอบด้วย GULF, BGRIM และ GUNKUL ในกรณี worst case หากต้องตั้งด้อยค่าจากผลกระทบดังกล่าวจะกระทบกำไร GULF ราว 1%, BGRIM 8% และ GUNKUL 4% ตามลำดับ 

CPAXT (-2.5%), CRC (-1.6%) กังวลงบ 2Q25 ชะลอตัวหลังผลสำรวจ SSSG เดือน เม.ย. ไม่ดีเฉลี่ย -1.6% จาก -0.4% ใน 1Q25 อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ยังต้องรอ update ผลสำรวจรอบเดือน พ.ค. อีกครั้งหลังเริ่มเห็นบางกิจการมีผลสำรวจ SSSG ที่ดีขึ้นในเดือน พ.ค. อาทิ BJC

AMATA (-4.67%), WHA (-3.13%) วิตก Trade war จากข่าวทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี EU 50% แม้ล่าสุดทรัมป์จะเลื่อนวันบังคับใช้จาก 1 มิ.ย. ไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. 25 แต่ข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความไม่แน่นอนในเชิงนโยบายให้กับภาคการค้าโลกเป็นจิตวิทยาลบกับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกระแสการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ

CPF (-2.86%), GFPT (-2.97%), TFG (-1.89%) ก.พาณิชย์ประกาศตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย. +10.2%y-y แต่ชะลอตัวจาก +17.8%y-y ในเดือน มี.ค. และต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 12.2%y-y อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มสินค้าที่โตเด่นต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง +8.6%y-y (4M25+8.8%y-y) แต่หุ้นที่เกี่ยวข้อง CPF, GFPT, TFG ปรับลงคาดเป็นการขายทำกำไรและ Sell on fact มากกว่าเพราะราคาหุ้นปรับขึ้นไปแล้วล่วงหน้า (อิงจากจุดต่ำสุดของ SET Index รอบนี้ คือ 8 เม.ย.กับราคาเมื่อวันศุกร์ 23 พ.ค. พบว่าราคาหุ้น CPF +20.4%, GFPT+23.9%, TFG+29.3% และ BTG+34.8%) ประกอบกับนักลงทุนเริ่มกังวลกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าแตะระดับ 32.45 บาท แข็งค่ามากสุดในรอบ 7 เดือน อาจกระทบความสามารถในการแข่งขัน

KCE (+2.68%), HANA (+4%), DELTA (+3.24%) คาดหวังงบ 2Q25F ฟื้นตัวต่อเนื่อง รับข่าว ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออกกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ และ อุปกรณ์ โตเด่น โดยเดือน เม.ย. +75.2%y-y (4M25 +64.3%) และ กลุ่มแผงวงจรไฟฟ้า +39%y-y (4M25 +28.1%)  

MINT (+3%) ภาพการท่องเที่ยวรวม โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังอยู่ในช่วงหาฐานหรือจุดกลับตัวหลังจากที่มีจำนวนลดลงจากหลายปัจจัยลบรวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาลที่จำนวนนักท่องเที่ยวมักปรับตัวลงทำจุดต่ำของทุกปีในเดือน พ.ค. ทำให้การลงทุนหรือเก็งกำไรสำหรับกลุ่มท่องเที่ยวจะเน้นหุ้นที่อิงผลประกอบการจากต่างประเทศโดยเฉพาะ MINT ซึ่งมีธุรกิจโรงแรมในยุโรปและมัลดีฟเข้าสู่ high season ในไตรมาส 2 ในขณะที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศเพียง 13-15% เท่านั้น

WICE (+7.26%), SINO (+5.61%), LEO (+1.83%) เป็นกลุ่มผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (Freight forwarder) ที่มีสัดส่วน Sea freight สูง มีกระแสเก็งกำไรต่อเนื่องหลังเห็นสัญญาณของดัชนีค่าระวางเรือ Container ฟื้นตัว คาดหวังการเร่งนำเข้าสินค้า (front load) ก่อนผลจากการขึ้นภาษี Reciprocal tax จะมีผลบังคับตั้งแต่ 9 ก.ค. 25 เป็นต้นไป 

- Advertisement -