บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ร่วง 15.01 จุด (-1.27%) ปิดที่ระดับ 1,163 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.48 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 314 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 162 บริษัท) ดัชนีปรับลงจาก 3 ปัจจัย คือ 1) วิตกโควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่, 2) ดุลการค้าไทยขาดดุลมากสุดในรอบ 27 เดือน และ 3) กังวลร่างกฏหมายงบประมาณปี 69 ล่าช้าหลังมีผู้ยื่นฟ้องร่างงบประมาณปี 68 ย้อนหลัง โดยมี Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA), โรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM, GPSC), ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, BA, MINT, CENTEL) ส่วน Sector ปรับขึ้น คือ กลุ่มโรงพยาบาล (BCH, CHG, PR9)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
GULF (-1.6%), BGRIM (-5.94%), GUNKUL (-1.19%) ปัจจัยลบเดิม กังวลข่าวการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ปรับลดราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีสัญญา PPA สูงกว่าระดับ 7 Cent/kWh ซึ่งมีผู้ประกอบการไทยที่มีโรงงานในเวียดนามและมีสัญญา PPA เกินระดับดังกล่าว 4 บริษัท คือ GULF, BGRIM, GUNKUL และ BCPG กรณี worst case หากต้องตั้งด้อยค่าคาดกระทบกำไรปีนี้ของ GULF ราว 1%, BGRIM 8% และ GUNKUL 4% ตามลำดับ
AOT (-2.94%), MINT (-0.97%), CENTEL (-1.48%) จาก 1) ผิดหวังตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงต่อเนื่อง ตัวเลขล่าสุด (19-25 พ.ค.) มีจำนวน 463,401 คน (เฉลี่ย 66,200 คนต่อวัน) ลดลง 0.24%w-w และ 2)กังวลข่าว Covid-19 ระบาดรอบใหม่
SCC (-3.17%), PTTGC (-1.49%) ย่อตัวตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์ HDPE-Naphtha สัปดาห์ที่ผ่านมา HDPE-Naphtha ลดลงแตะระดับ 357$/ton ลดลง 0.6%w-w สวนทางตลาดคาดหวังว่าจะฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเรายังมองภาพกลางยังดี อิงตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดี อาทิ ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. ฟื้นตัวต่อเนื่อง
CHG (+4.76%), BCH (+3.1%), PR9 (+1.74%) คาดได้ประโยชน์ โควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ โดยข้อมูลในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียวพบผู้ป่วยโควิด -19 เร่งขึ้น 65,007 ราย เสียชีวิต 8 ราย ส่งผลให้ยอดสะสม YTD (1 ม.ค. – 24 พ.ค.2025) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 204,965 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 51 ราย
TOP (+3.51%) เป็นหุ้น Top Pick ของเราเช้านี้ แนะเก็งกำไรรับผลบวกจากค่าการกลั่นไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์ (26 พ.ค. 25) ปรับขึ้นสู่ระดับ