บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* ภาวะตลาดอ่อนแอ
Event
อัปเดตแนวโน้มบริษัท, ปรับประมาณการ และราคาเป้าหมาย
Impact
ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางอาจจะทำให้การบริโภคอ่อนแอต่อเนื่อง
ภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ โดย i) อัตราการขยายตัวของ GDP และการบริโภคอาจจะชะลอตัวลงใน 2H68F หลังจากที่ GDP ใน 1Q68 ขยายตัว 3.1% YoY และการบริโภคขยายตัว 2.6% YoY (KGI ใช้สมมติฐานอัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2568F ที่ 1.9%) ii) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในงวด 5M68 อ่อนแอ อยู่ที่ ~14.4 ล้านคน (-3% YoY) คิดเป็น 39% ของสมมติฐานเต็มปีของ KGI ที่ 36.5 ล้านคน iii) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม มาอยู่ที่ 55.4 และ iv) รัฐบาลเลื่อนมาตรการกระตุ้นผ่าน digital wallet เฟสที่สาม ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการบริโภค
คาดว่ากำไรจะแผ่วลงใน 2Q-3Q เพราะเป็นช่วงที่ชะลอตัวตามฤดูกาล
เราคาดว่ากำไรของ CPALL ใน 2Q-3Q จะไม่น่าสนใจ แต่คาดว่ากำไรน่าจะเพิ่มขึ้นใน 4Q โดย same store sales พลิกกลับมาติดลบ QTD (จาก +3.0% ใน 1Q68) เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง, อุปสงค์อ่อนแอท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย, หน้าฝนที่มาเร็ว, มีการเลื่อนมาตรการ digital wallet และผลกระทบจากช่วง low season อย่างไรก็ตาม การวางจำหน่ายสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดอาหารสด น่าจะช่วยหนุน margin ของบริษัท และช่วยบรรเทาผลกระทบจากยอดขายที่อ่อนแอไปได้บางส่วน
ปรับประมาณการกำไรปี 2568F-2569F
เราปรับประมาณการกำไรของ CPALL เล็กน้อย เพื่อสะท้อนถึง i) ผลกระทบจากการปรับประมาณการกำไรของ CP Axtra (CPAXT.BK/CPAXT TB) ii) การปรับลด SSSG ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVs) ในปี 2568F จาก 3% เป็น 1.5% และ iii) การปรับเพิ่ม margin จากการขายสินค้าของธุรกิจ CVs ขึ้นอีก 10bps เพื่อสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการวางจำหน่ายสินค้าใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะการบริโภคอ่อนแอ เราจึงปรับลด PER ลงจาก 22.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -0.5 S.D.) เป็น 20.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -1.0 S.D.)
เดินหน้าซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลของ SET ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2568 CPALL ซื้อหุ้นคืนมาแล้ว 25.1 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 1.2 พันล้านบาท (47.9 บาท/หุ้น) ซึ่งคิดเป็น 17% ของเพดานการซื้อหุ้นคืนที่ 150 ล้านหุ้น
Valuation & action
ถึงแม้ว่าเราจะปรับลด PER ของ CPALL ลงอีก และได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568F ใหม่ที่ 58.00 บาท จากเดิม 64.00 บาท แต่ราคาปิดล่าสุดยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายใหม่ของเราอีกถึง 20% ดังนั้น เราจึงแนะนำ “ซื้อ” CPALL
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัว, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าที่คาด, disruption จากเทคโนโลยีใหม่, ถูกยกเลิกเครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic