Daily Focus: จับตาพัฒนาการสงครามและการประชุมธนาคารกลาง

 2025 SET Target : 1180

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,120+- จุด ตามปัจจัยลบจากอิสราเอลที่เปิดฉากโจมตีอิหร่าน อย่างไรก็ตามยังพอมีแรงซื้อระหว่างวันทำให้ดัชนีไม่หลุดแนวรับสำคัญดังกล่าว โดยปิดลบ 5.92 จุด ที่ระดับ 1,122.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.2 หมื่นลบ. กลุ่มที่ถ่วงตลาดคือ ขนส่ง ค้าปลีก วัสดุก่อสร้าง ท่องเที่ยว ส่วนกลุ่มที่หนุน ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.6 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิบางๆ 330 ลบ. (ต่างชาติ Long Index Futures สุทธิ 2.3 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,120-1,130 จุด โดยยังต้องติดตามพัฒนาการสงครามอิสราเอล-อิหร่านต่อเนื่อง รวมถึงสัปดาห์นี้มีการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง อย่างไรก็ตามดัชนีมีโอกาสเกิด Technical Rebound สลับระยะสั้นหลังยังไม่หลุดแนวรับหลัก 1,120+- จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมา Long Index Futures หนาแน่น ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ฝั่งสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกนเดือน มิ.ย. ออกมาดีกว่าคาดมากที่ 60.5 สูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่เงินเฟ้อคาดการณ์ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน ส่วน
เช้านี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน พ.ค. ทั้งยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม หากออกมาสูงกว่าคาดจะหนุนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม ราคาน้ำมันดิบ Brent ล่าสุดอยู่ที่ราว US$75 ต่อบาร์เรล และยังต้องติดตามความเสี่ยงหากสงครามรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่แรงกดดันทางเศรษฐกิจจาก Cost-Push Inflation ขณะที่การเติบโตมีแนวโน้มชะลอตัวจากภาษีการค้าสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ติดตามพัฒนาการการเมืองในประเทศโดยเฉพาะความชัดเจนของการปรับครม. รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนลบ. ว่าจะมีการจัดสรรและทยอยออกมาอย่างไรบ้างจากปัจจุบันที่ล่าช้า ทำให้โมเมนตัมเศรษฐกิจที่แผ่วใน 2Q25 และอาจต่อเนื่องใน 3Q25 ระยะสั้นยังเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีประเด็นหนุนเฉพาะตัว ได้แก่ กลุ่มพลังงานต้นน้ำ รวมถึง Defensive Play ท่ามกลางความเสี่ยงและไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเมือง

กลยุทธ์ : ยังเน้นเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2Q25–2025 แข็งแกร่งและมีความแน่นอนของกำไร
สูง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : CPALL, MTC, OSP, SJWD, STECON

FSSIA Portfolio : BA, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON

หุ้นเด่น Finansia 16 มิ.ย. 25 : ADVANC

– แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 317.65 บาท

– แนวโน้มกำไร 2Q25-2H25 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่องหนุนจากทั้งฝั่งรายได้ที่คาดว่ายังเติบโตแข็งแรง ขณะที่ต้นทุนไม่มีแรงกดดันเพิ่มเติมหลังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เหมือนช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงภาพการแข่งขันที่เบาลง 

– ส่วนการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่เราคาดว่าจะไม่แพงเท่าในอดีต ซึ่งจะเป็นบวกต่อผลการดำเนินงานระยะยาว ประมาณการกำไรปี 2025 ของ Consensus ล่าสุดอยู่ที่ 4-4.1 หมื่นลบ. +16% y-y ยังเป็นหุ้น Defensive ที่คาดผันผวนต่ำท่ามกลางความไม่แน่นอน

– แนวรับ 280//274 บาท แนวต้าน 295//300 บาท 

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนต่างชาติผสมผสาน สุทธิแล้วไหลออกจากภูมิภาค สุทธิเล็กน้อย US$34 ล้าน เม็ดเงินพลิกมาไหลออกจากเกาหลีใต้และไต้หวันบางๆ ประเทศละ US$5–84 ล้าน ขณะที่ฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซีย US$29 ล้าน ตามด้วยไทย US$10 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสานและค่อนไปในทางไหลออก โดยตลาดยังจับตาสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านต่อเนื่อง ว่าจะปะทุรุนแรงมากขึ้นมากน้อยเพียงใด

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) Contractor ข่าวสมเด็จฮุน เซน เรียกร้องให้แรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ ทั้งนี้ อ้างอิงจากข้อมูลของกรมการจัดหางานพบว่า คนต่างด้าวที่นำเข้าตาม MOU ในกิจการก่อสร้างในไทยเดือน พ.ค. 2025 มีจำนวนรวม 1.07 แสนคน จากทั้งหมดในระบบ 1.3 แสนคนมาจากกัมพูชา 5 หมื่นคน รองลงมาเป็นเมียนมา 4.4 หมื่นคน เรามองว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่น่ากังวลให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีนัย เพราะแรงจูงใจด้านค่าแรงขั้นต่ำไทย 400 บ./วัน สูงกว่ากัมพูชาที่ 250 บ./วัน CK มองว่าไม่กระทบ เนื่องจากแรงงานต่างด้าวจะอยู่ภายใต้
Sub-contractor ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาและมีกัมพูชาน้อยกว่า 5% ของทั้งหมด อย่างไรก็ ตามต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งว่ามีความรุนแรงหรือยกระดับขึ้นหรือไม่

(0) SFLEX คาดกำไรปกติ 2Q25 -10.7% q-q จากผลของฤดูกาล บวกกับเงินบาทที่แข็งค่าอย่างมาก กระทบการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมในเวียดนาม เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2025–27 ลง 9%/4%/2% หลักๆ มาจากการปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลงและปรับลดส่วนแบ่งกำไรจาก Starprint Vietnam ลงจากเงินบาทที่แข็งค่าค่อนข้างมาก ภายหลังการปรับประมาณการ เราคาดกำไรปกติปี 2025 ลดลง 2.6% y-y เป็น 271 ล้านบาท และปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.1% y-y ในปี 2026 จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 3.90 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

(0) คาดการณ์หุ้นเข้า–ออก SET50/100 งวด 2H25 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า TCAP BCP KKP หุ้นออก GLOBAL BGRIM ITC ส่วน SET100 หุ้นเข้า MBK TFG JTS AURA TOA TVO SVI หุ้นออก COCOCO ERW JMART ROJNA SAPPE SKY SNNP โดย ตลท. จะประกาศผลอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย.

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 769.83 จุด หรือ -1.79%, ปิดที่ 42,197.79 จุด ปิด ร่วงลงกว่า 700 จุดในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอลที่มุ่งสกัดศักยภาพของอิหร่านในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) หลังการโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอลต่ออิหร่าน ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างกว้างขวาง และหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศการค้าของโลกที่ไม่แน่นอนซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดอยู่แล้ว

(+) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกสวนทางตลาดสหรัฐฯ รอการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของประเทศจีนสำหรับเดือนพฤษภาคม

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่บริเวณ 32.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 0.07%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 4.94 ดอลลาร์ หรือ 7.26% ปิดที่ 72.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดพุ่งขึ้นกว่า 7% ในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) หลังจากอิสราเอลและอิหร่านโจมตีทางอากาศโต้ตอบกัน ซึ่งจุดชนวนความกังวลของนักลงทุนว่า ความขัดแย้งอาจกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลางในวงกว้าง ขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 73.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.56%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 50.40 ดอลลาร์ หรือ 1.48% ปิดที่ 3,452.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 50 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่อิหร่าน ซึ่งจุดกระแสความกังวลว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจลุกลาม ขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 3,459.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.19%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 940.49 / 0.28%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

16 มิ.ย.จีน: ยอดค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม (พ.ค.)
17 มิ.ย.ญี่ปุ่น: ประชุม BoJ

เยอรมนี: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (มิ.ย.)

สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (พ.ค.)

18 มิ.ย.อังกฤษ: BoE Meeting, เงินเฟ้อ (พ.ค.)

สหรัฐ: Fed Meeting, Housing Starts (พ.ค.)

20 มิ.ย.ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ (พ.ค.)

จีน: Loan Prime Rate 5Y

23 มิ.ย.สหรัฐ: Existing Home Sales (พ.ค.)
- Advertisement -