ยังขาดปัจจัยหนุนสำหรับตลาดหุ้นไทย

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวก 317 จุด (+0.75%) ได้แรงหนุนจากน้ำมันที่ชะลอตัวลง หลังจากอิหร่านส่งสัญญาณพร้อมเจรจาเพื่อยุติสู้รบกับอิสราเอล พร้อมกับคลายกังวลเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.35% หลังมีรายงานว่าคู่ขัดแย้งในตะวันออกกลางพร้อมเจรจา

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา มิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของฝั่งสหรัฐฯ แต่กับจีน รายงานยอดค้าปลีกขยายตัว 6.4%YoY มากกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.9%YoY แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนมากตั้งข้อสังเกตว่าการขยายตัวที่เด่นนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐและเทศกาล 618 (ส่งเสริมการใช้จ่ายในวงการ E-Commerce) แต่หากไปดูผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพียง 5.8%YoY โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหา (-10.7%YoY)

แต่ Focus ของตลาดไปให้น้ำหนักกับการเจรจาระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล โดย Wall Street ระบุว่าอิหร่านกำลังต้องการเจรจากับสหรัฐฯ และอิสราเอลเพื่อยุติสงคราม แต่อย่างไรก็ตาม เช้านี้ช่วงเวลา 5.30 น. ตามเวลาประเทศไทย Trump ได้ออกมาโพสต์ Truth Social เตือนให้คนอพยพออกจากเตหะราน (เมืองหลวงของอิหร่าน) ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากำลังจะสื่อว่าอาจมีความรุนแรงเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แต่สิ่งที่แสดงออกจากตลาดก็คือ ราคาน้ำมันกลับมาฟื้นตัว ผสานกับราคาทองคำเช้านี้กลับมาทดสอบระดับ 3400 สะท้อนถึงความกังวลเล็กน้อยจากตลาด พร้อมกับตลาดหุ้น Dow Jones Future กลับมาแกว่งลบ (-0.5%) หรือราว 200 จุด

ด้านปัจจัยในประเทศ วานนี้ SET ยังคงปรับลง (-0.7%) รับแรงกดดันจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและบริโภค (AOT -8.4% MINT -5% CPAXT -2.2% BJC -3% HMPRO -2%) สะท้อนว่านักลงทุนกังวลกับการท่องเที่ยวและอาจมีผลมาถึงการบริโภคในท้ายที่สุด

ในส่วนของ AOT ล่าสุดพบว่ายังไม่มีสรุปว่าจะแก้ไขหรือยกเลิกสัญญาอย่างไรกับ King Power ทางผู้บริหารแจ้งว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษารายละเอียด ใช้ระยะเวลาราว 2 เดือน และเมื่อได้ข้อสรุปจะเจรจากับ King Power อีกครั้ง ซึ่งทาง AOT จะยึดผลประโยชน์ AOT เป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้น AOT ก็มีแนวทางหารายได้อื่นเพิ่มเติม เช่น ขอปรับค่าบริการ PSC แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประกอบการมีความเสี่ยง โดยเฉพาะในปี 2026 จึงยังแนะนำชะลอลงทุนไปก่อน

ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ ดัชนีอสังหาของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 36 และยอดค้าปลีก Bloomberg Consensus ประเมินที่ -0.5%MoM วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1105 – 1120 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่แนะนำเพิ่มพอร์ตการลงทุน ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ยังไม่แข็งแกร่ง (พื้นฐานไทย) และภายนอกยังเผชิญกับความเสี่ยงการค้าและตะวันออกกลาง แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระยะสั้นอาจเลือก Trading หุ้นน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (TOP) กลุ่ม Defensive (BDMS) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA, WHA)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

ICHI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท)
ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 12.50 บาท เนื่องจาก Upside ที่มากขึ้น ปัจจุบันซื้อขายเพียง 10.9x PE’25C เทียบกับ ROE > 20% นอกจากนี้บริษัทมีสถานะเงินสดสูง จึงสามารถจ่ายผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูด 10%-11% ในปี 2025-26 ขณะที่แนวโน้มยอดขายชาเขียวออกจากร้านค้าปลายทางยังประคองตัวได้ ลดลงบ้างตามสภาพอากาศ ยอดขายน้ำด่าง pH+ ยังโตดีต่อเนื่อง รับลูกค้า OEM ถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น

AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท)
ผลประกอบการในปี 2025 ของ AMATA ยังมีโอกาสเติบโตจากปีก่อนได้ จากผลดีของ Backlog ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้เรายังคงคาดกำไรทั้งปีที่ระดับ 2,975 ล้านบาท (+20%YoY) ไว้เท่าเดิมก่อน อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจชะลอการโอนที่ดินไป ซึ่งจะทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ สำหรับคำแนะนำการลงทุน ระยะสั้นเรามองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงเพราะกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าไปมากแล้ว

- Advertisement -