บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) ชี้ปี 2568 โอกาสเติบโตโดดเด่น รับอานิสงส์ค่า RW ประกันสังคมชัดเจน
บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล มองเห็นศักยภาพการเติบโตที่สดใสในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากความชัดเจนของสำนักงานประกันสังคมที่ได้มีมติยืนยันการปรับจ่ายค่า RW ที่ระดับ 12,000 บาทตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผลกำไรของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ผศ.พญ.สายสุณี วนดุรงค์วรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ VIH ดำเนินธุรกิจภายใต้กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,854.63 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้น 11.05% อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานดังกล่าวก็ได้รับผลกระทบจากรายการพิเศษรวม 55.88 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยประเด็นการปรับการจ่ายค่า RW ของสำนักงานประกันสังคมที่ทำให้เกิดผลกระทบ 42.81 ล้านบาท และประมาณการฟ้องร้องคดีความ อีก 13.07 ล้านบาท โดยรายการพิเศษเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิปี 2567 ประมาณ 47.32 ล้านบาท หากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานปกติโดยไม่รวมผลกระทบจากรายการพิเศษดังกล่าว กำไรปกติสำหรับปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 362.82 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตสูงถึง 27.4 % เมื่อเทียบกับปี 2566 และส่งผลให้อัตรากำไรปกติของปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 11.05 % สะท้อนถึงศักยภาพการทำกำไรที่แท้จริงของบริษัทฯ
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2568 นั้น ได้ตอกย้ำถึงทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 673 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ (หลังปรับปรุงรายการพิเศษ) 98.84 ล้านบาท เติบโตถึง 36.7 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ที่มีกำไรสุทธิ 72.31 ล้านบาท การเติบโตที่โดดเด่นในไตรมาสแรกนี้เป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการราคาอย่างมีประสิทธิภาพ (Price Adjustment) การควบคุมและลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง (Lean Cost) และ การบริหารจัดการต้นทุนต่อหน่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากขนาดการผลิต (Economies of Scale)
ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกของปี 2568 และที่สำคัญคือ การที่สำนักงานประกันสังคมได้ยืนยันการจ่ายค่า Adjusted RW ที่ระดับ 12,000 บาทตลอดทั้งปี 2568 ทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่ารายได้รวมทั้งปี 2568 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% และที่สำคัญที่สุดคืออัตรากำไรของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการคลี่คลายของประเด็นค่า RW ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ในปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนจากนโยบายที่ชัดเจน จะนำพาบริษัทฯ ไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านสำหรับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนที่มีให้บริษัทฯ เสมอมา