พรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือประกาศเดินหน้าต่อ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการเนื่องในวัน Juneteenth

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงขอโทษประชาชนเกี่ยวกับคลิปเสียงที่หลุดออกมาในโลกออนไลน์ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 และทางกองทัพแล้ว ซึ่งมีความเข้าใจกันดี ทั้งรัฐบาลและกองทัพพร้อมผนึกกำลังสู้กับภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ พร้อมยืนยันเดินหน้าต่อ ไม่ยุบสภาหรือลาออก ขณะที่พรรคร่วมที่เหลืออย่างรวมไทยสร้างชาติก็ยังเดินหน้าต่อกับพรรคเพื่อไทย สอดคล้องกับประชาธิปัตย์ที่ร่วมเดินหน้ากับรัฐบาลต่อเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยพรรคภูมิใจไทยที่ถอนตัวออกไป ทำให้ ส.ส. ร่วมรัฐบาลอยู่ที่ 261 เสียง (เบื้องต้น)

อาจไม่สูงเท่าใดนัก เพราะภูมิใจไทยมีเสียงถึง 71 เสียง (ก่อนหน้าจึงรวมกันเป็นเสียง 332 เสียง) แต่ถึงอย่างนั้น 261 เสียงก็ยังมากกว่าครึ่งหนึ่งของสภาที่ 500 เสียง แต่ก็เป็นความเสี่ยงในช่วงถัดไปกับการโหวตร่างนโยบายต่างๆ จากนี้ หากสถานการณ์การเมืองไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากดดัน ก็เชื่อว่านักลงทุนจะกลับมาให้น้ำหนักกับทิศทางเศรษฐกิจทั้งไทยและโลก ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยนั้น วานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาออกมารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วง 1 ม.ค. – 15 มิ.ย. อยู่ที่ 15.5 ล้านราย (-3.6% YoY) และยังคงเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เป็นอันดับแรก โดยจีนลดลงมาเป็นอันดับ 2 (2 สัปดาห์ติดต่อกัน) หากเปรียบเทียบเป็นรายสัปดาห์จะพบว่า -11% WoW และมาเลเซียลดลง 34% WoW แต่จีนขยายตัวเล็กน้อย +9.6% WoW แต่อย่างไรก็ตาม หากประเมินเมื่อเทียบกับปีก่อนจะลดลงค่อนข้างมากสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ทำให้เศรษฐกิจไทยยังดูไม่แข็งแกร่ง และหลังจากนี้ก็เชื่อว่าส่งออกจะค่อยๆ ขยายตัวลดลง จากการที่เร่งไปก่อนหน้าอย่างมีนัยยะ คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม โดยสัปดาห์หน้ารอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE)

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1055 – 1080 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเริ่มมองโอกาสสะสมบางส่วน เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทย Price in แรงกดดันต่างๆ ไปพอสมควร แต่ให้เน้นย้ำถึงการสะสมเพียงบางส่วนเท่านั้น และหุ้นที่เน้นสะสมก็ให้มองไปที่หุ้นใหญ่ที่มีความสามารถในการแข่งขันระยะยาวหรือคู่แข่งใหม่ๆ เข้ามาได้ยาก อาทิ ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (CPALL BJC CRC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) โรงพยาบาล (BDMS)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)

คาดการณ์รายได้ปี 2025 ที่เติบโตในอัตราลดลง (-2%) โดยใน 1Q25 ประกาศกำไรสุทธิที่ 4.3 พันล้านบาท (+7% YoY) ทรงตัวจากไตรมาสก่อน หนุนจาก

  1. รายได้รับรู้จากโรงพยาบาลและเตียงผู้ป่วยใหม่ และ
  2. การเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มตะวันออกกลาง (+22% YoY) และ CLMV (+11% YoY) ขณะที่ในปี 2025 เรามองว่าผลประกอบการจะเติบโต YoY แม้อ่อนตัว QoQ จาก
  3. ปัจจัยฤดูกาล และ
  4. จำนวนผู้ป่วยต่างชาติชะลอตัวในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบระยะสั้นจากเหตุแผ่นดินไหว ทั้งนี้เราคาดว่าสามารถชดเชยจากการฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม (+6% YoY)

KTB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท)

คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 7.1% ในปี 2025 ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.7x PBV25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี (2015–2024) โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวจากความท้าทายสูงขึ้นจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความเปราะบางของกลุ่มลูกหนี้รายย่อยและ SME ทำให้ธนาคารต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเติบโต อีกทั้ง NIM ลดลงจากวัฏจักรดอกเบี้ยลดลง แต่การควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดีทำให้สามารถผ่อนคลายการตั้งสำรองหนี้ลง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยช่วยหนุนให้สามารถรักษาการเติบโตของกำไรได้ แม้จะเป็นการเติบโตชะลอตัวที่ 1% / 2% ในปี 2025–26

 

- Advertisement -