Daily Focus: รัฐบาลไปต่อ แต่ SET จะฟื้นได้หรือไม่?
ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index ปรับตัวลงแรงต่อเนื่องตามคาด ปิดลบอีก 25.85 จุด ที่ระดับ 1,068.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นลบ. โดยเข้าใกล้แนวรับ Low เดิมในช่วงเดือนเม.ย. ภาพรวมดัชนีถูกเทขายอย่างกระจายตัว ยกเว้นกลุ่มน้ำมันและอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวลงน้อยกว่าตลาด เนื่องจากกระทบจำกัดจากปัจจัยในประเทศ สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นถึง 6.4 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 693 ลบ. (แต่ยัง Long Index Futures สุทธิอีก 5.6 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down โดยยังมีโอกาสซึมตัวลงหาแนวรับหลักบริเวณ Low 1,050–1,060 จุด โดยประเด็นความไม่แน่นอนและเสถียรภาพของรัฐบาลที่เปราะบางยังเป็นปัจจัยกดดันหลัก จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงอย่างมีนัยยะ โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตามต่อในวันนี้คือการพูดคุยและต่อรองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือกับพรรคเพื่อไทย หลังการประชุมพรรคต่างๆ วานนี้ ซึ่งคาดว่าจะยัง Overhang และกดดันให้ SET Index ฟื้นตัวได้จำกัด กรณีที่ช่วยลดแรงกดดันระยะสั้นที่สุดคือการที่นายกฯ ลาออกและต้องสรรหานายกฯ ท่านใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นเสถียรภาพของรัฐบาลที่ต่ำจะยังคงอยู่ต่อไป ขณะที่กรณีหากยุบสภา ระยะสั้นอาจกดดันดัชนีในระหว่างรอการเลือกตั้งใหม่ 45–60 วัน แต่มีโอกาสที่ตลาดจะคาดหวังเชิงบวกในระยะกลาง–ยาวมากกว่าหากผลการเลือกตั้งมีแนวโน้มว่ามีพรรคที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่ยาก ส่วนประเด็นสงครามยังคงกดดัน หลังทรัมป์อยู่ระหว่างพิจารณาร่วมโจมตีอิหร่าน ระยะสั้นกลยุทธ์จึงยังเน้นพักเงินในหุ้นกลุ่ม Defensive หุ้นปันผลสูง รวมถึง Global Play เช่น กลุ่มน้ำมันและส่งออก ซึ่งถูกกระทบจากความเสี่ยงการเมืองในประเทศจำกัดกว่า
กลยุทธ์: พักเงินในหุ้นกลุ่ม Defensive หุ้นปันผลสูง รวมถึง Global Play เช่น กลุ่มน้ำมันและส่งออก ซึ่งถูกกระทบจากความเสี่ยงการเมืองในประเทศจำกัดกว่า
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.: CPALL, MTC, OSP, SJWD, STECON
FSSIA Portfolio: BA, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON
หุ้นเด่น Finansia 20 มิ.ย. 25 : CPAXT
- แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 34 บาท
- บริษัทแจ้งตลาดฯ คณะกรรมการบริษัทมีมติยืนยันว่า บริษัทไม่มีแผนการลงทุนในโครงการอื่นๆ และไม่มีการให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับ MQDC ประเมินเป็น sentiment บวก กับ CPAXT
- จากประกาศยืนยันดังกล่าว และน่าจะช่วยลดความกังวลของตลาดฯที่เกี่ยวข้องกับ MQDC จากกรณีที่ออกหุ้นกู้ไม่ครบจำนวน ซึ่ง MQDC จะมีการออกหุ้นกู้รอบใหม่ เพื่อ roll over bond ที่จะครบกำหนดในวันที่ 25 ก.ค. 2025 มูลค่ารวม 4.9 พันลบ.
- แนวรับ 16.50//16 บาท แนวต้าน 17.30//18 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคสุทธิ US$1,021 ล้าน แต่ยังอยู่ในฝั่งเอเชียตะวันออก นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$772 ล้าน และ US$158 ล้านตามลำดับ ส่วนฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลออก นำโดยอินโดนีเซีย US$76 ล้าน ส่วนไทยไหลออก US$21 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าจะยังค่อนไปในทิศทางไหลออก โดยประเด็นสงครามยังคง Overhang
ประเด็นสำคัญวันนี้:
(0) ITEL: คาดกำไรปกติใน 2Q25 จะใกล้เคียง 1Q25 โดยคาด 28 ลบ. +0.6% q-q, +31.0% y-y การเพิ่มขึ้น y-y เพราะฐานต่ำในปีก่อน ระดับกำไรดังกล่าวถือว่ายังไม่ดีนัก หลักๆ มาจากรายได้จากการให้บริการ USO 1 ที่หายไปตั้งแต่ ก.ค. 2024 ถึงปลาย เม.ย. 2025 การเมืองเป็นความเสี่ยงของธุรกิจ Installation ซึ่งคิดเป็น 50–55% ของรายได้รวมและกำไรขั้นต้น กำไรที่เราคาดใน 1H25 คิดเป็นเพียง 24% ของทั้งปี แต่ upside จะมาจากการประมูล USO 3 ซึ่งคาดประมูลเดือน ก.ค. หากชนะประมูลน่าจะเริ่มรับรู้รายได้ปลาย 3Q25 และการซื้อหุ้นคืนควรสร้างความเชื่อมั่น คงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 2.60 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) GABLE: คาดผลการดำเนินงานใน 2Q25 จะกลับมาเป็นปกติตามฤดูกาลที่ยังอยู่ใน low season ด้วย Backlog ณ สิ้น 1Q25 ที่สูง 6.0 พันลบ. โดยประมาณ 48% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2025 อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองเลวร้ายถึงขั้นงบประมาณประจำปี 2026 ต้องล่าช้า จะกระทบ sentiment การลงทุนโดยรวม ซึ่งจะส่งผลต่อ Backlog ของบริษัทในปีหน้า ขณะที่ในปีนี้ที่บริษัทมี Backlog จำนวนมาก น่าจะสามารถสร้างกำไรที่ดีได้ GABLE จัดอยู่ในกลุ่มที่หลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบทางจิตวิทยาจากการเมืองไม่ได้ ราคาหุ้นมีเพียงความถูกแต่ยังไม่มี catalyst จนกว่าการเมืองจะชัดเจน
(0) ATLAS (IPO): เป็นผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 7 ภายใต้เครื่องหมายการค้า “PT” ที่จำหน่ายให้กับภาคขนส่ง ครัวเรือน และอุตสาหกรรม ATLAS มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันจากการผนึกเครือข่ายกับ PTG ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันอันดับ 2 ของไทย กำไรจากธุรกิจโฆษณาจะยังเป็นกุญแจสำคัญของการทำ Asset Monetization เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาบนแท็กซี่คิดเป็น 62.8% ของกำไรสุทธิทั้งปี 2024 คาดกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2025–27 เติบโต 6% y-y CAGR ราคาเหมาะสม 4.80 บาท อิง PE เฉลี่ยของทั้งธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 7 และสื่อโฆษณานอกบ้านเฉลี่ยอย่างละ 50% อยู่ที่ 16.5 เท่า (Finansia เป็นร่วมจัดจำหน่าย)
(0) หุ้นเข้า–ออก SET50/100 งวด 2H25:
สำหรับ SET50 หุ้นเข้า: BCP, KKP, TCAP, TIDLOR
หุ้นออก: BGRIM, GLOBAL, ITC, SAWAD
ส่วน SET100 หุ้นเข้า: AURA, JTS, MBK, TFG, TOA, WHAUP
หุ้นออก: CKP, COCOCO, ROJNA, SAPPE, SKY, SNNP
(0) ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมัน และตลาดทองคำของสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth)
(-) ตลาดหุ้นยุโรปร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำสงครามกับอิหร่าน ซึ่งสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก รอการรายงานตัวเลขดอกเบี้ยของประเทศจีน
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่บริเวณ 32.77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -0.32%
NVDR TOP BUY SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 947.37/-
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 มิ.ย. | ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ (พ.ค.) จีน: Loan Prime Rate 5Y |
23 มิ.ย. | สหรัฐ: Existing Home Sales (พ.ค.) |
24 มิ.ย. | จีน: National People’s Congress standing committee |
26 มิ.ย. | สหรัฐ: 1Q25 GDP growth (Final), Durable Goods Orders (พ.ค.) |
27 มิ.ย. | สหรัฐ: Core PCE Price index (พ.ค.) |