บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 เดินหน้าสู่อนาคตด้วยกลยุทธ์สร้าง Startup Platform แห่งยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “SMD100 – What’s NEXT?” ผ่านโครงสร้างนวัตกรรมเชิงระบบ (Systemic Innovation Architecture) ที่ชูข้อได้เปรียบเหนือ Startup ดั้งเดิมในทุกมิติ ทั้งด้านเงินทุน ความเชื่อมโยงกับตลาด และแผนสู่ตลาดทุนที่ชัดเจน

SMD100 – What’s NEXT?

Startup Platform แห่งยุคใหม่ในเครือ SMD rise: โครงสร้างนวัตกรรมเชิงระบบ และข้อได้เปรียบเหนือ Startup แบบดั้งเดิมในบริบทการลงทุนยุคใหม่ (Startup Platforms of the New Era under SMD rise: Systemic Innovation Architecture and Investment Advantages over Traditional Startups)

ข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างของ Startup ในเครือบริษัทมหาชน

Startup Platform ในเครือบริษัทมหาชนมีข้อได้เปรียบเหนือ Startup แบบดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญในหลายมิติ ทั้งในด้านโครงสร้างทุน ความเชื่อมโยงกับตลาด และความพร้อมต่อการเติบโตระยะยาว

  • ประการแรก คือ ความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรแม่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้มีความสามารถในการลงทุนระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งพาการระดมทุนจาก Venture Capital อย่างต่อเนื่อง
  • ประการที่สอง คือ ความได้เปรียบด้านลูกค้าและตลาด โดย Startup เหล่านี้สามารถเริ่มต้นธุรกิจบนฐานของลูกค้าที่มีอยู่แล้ว เช่น โรงพยาบาลรัฐและเอกชน หรือองค์กรภาครัฐที่ทำงานร่วมกับบริษัทแม่อยู่ก่อน ซึ่งแตกต่างจาก Startup ดั้งเดิมที่ต้องเริ่มสร้างตลาดใหม่จากศูนย์
  • ประการที่สาม คือ ความสอดคล้องเชิงนโยบาย โดย Startup Platform เหล่านี้สามารถดำเนินงานร่วมกับภาครัฐในลักษณะ B2G, B2B2G หรือ PPP ได้ทันที ด้วยความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่และการออกแบบโมเดลธุรกิจให้เชื่อมโยงกับระบบสุขภาพของรัฐตั้งแต่ต้น
  • ประการที่สี่ คือ ความชัดเจนของเส้นทางสู่ตลาดทุน โดยมีแผนการ spin-off หรือ IPO ที่วางโครงสร้างมาแล้วภายในบริษัทแม่ ทำให้นักลงทุนมีทางออกที่ชัดเจน และสามารถประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจได้บนฐานของหลักทรัพย์ที่มีอยู่จริง

ดร. วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD rise ระบุว่า “แนวทางการเติบโตเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของกลุ่มบริษัทในระยะ 3–5 ปีข้างหน้า โดยบริษัทฯ มีแผนนำบริษัทในเครือเข้าสู่กระบวนการ Spin-off เพื่อเสริมสร้างความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้ บริษัท เอสเอ็มดี สัปปายะ จำกัด มีกำหนดการ Spin-off ภายในช่วงปลายปี 2568 และบริษัท เอสเอ็มดีไอ จำกัด มีกำหนดการ Spin-off ภายในช่วงปลายปี 2570 โดยทั้งสองบริษัทจะดำเนินการภายใต้หลักธรรมาภิบาล การบริหารจัดการที่โปร่งใส และมีความพร้อมเข้าสู่ตลาดทุนตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานที่กำกับดูแล”

“บริษัทฯ ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเสมอมา และขอเชิญชวนท่านร่วมติดตามพัฒนาการสำคัญของบริษัทในช่วงเวลานี้อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตสู่อนาคตในฐานะองค์กรสุขภาพเชิงนวัตกรรมแห่งยุคใหม่” ดร. วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ กล่าวทิ้งท้าย

 

- Advertisement -