KS Daily View 23.06.2025 >>> ตะวันออกกลางระอุ! ความขัดแย้งเร่งระดับหลังสหรัฐฯ โจมตีอิหร่าน มองกรอบ SET วันนี้ 1,055–1,070 จุด แนะนำ TOP และ PTTEP
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,055-1,095 จุด มองแนวโน้มหลักของดัชนีเป็นการปรับตัวลง และระยะสั้นนอกจากปัจจัยบวกดูยังไม่มี แต่มีปัจจัยลบเข้ามากดดันมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเด็นเรื่องการเมืองภายในประเทศที่เร่งระดับ เสถียรภาพของรัฐบาลดูมีความเสี่ยงมากขึ้น หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล อาจส่งผลให้การพิจารณาและอนุมัติเริ่มใช้งบประมาณประจำปี 2026 ล่าช้าซ้ำเติมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่สัปดาห์นี้ กนง. มีกำหนดประชุมเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย ตลาดคาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% แม้จะมีลุ้นว่า กนง. อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยลงต่อได้จากภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ติดลบ แต่เชื่อหากตลาดตอบสนองเชิงบวกก็จะเป็นไปอย่างจำกัด ในส่วนปัจจัยในต่างประเทศยังคงผันผวนโดยความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งล่าสุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้เข้าร่วมในการโจมตีโดยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าโจมตีสถานีนิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่งผลให้ราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,067.63 จุด ปรับตัวลดลง 4.91% จากสัปดาห์ที่ผ่านมากดดันโดยการปรับลดลงของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, อาหาร, และขนส่ง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways down อยู่ในกรอบ 1,055–1,070 จุด จากปัจจัยลบเข้ามากดดันมากขึ้นประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะเสถียรภาพของรัฐบาลดูมีความเสี่ยงมากขึ้นและความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่เร่งระดับหลังสหรัฐฯได้เข้าร่วมในการโจมตีอิหร่าน แนะนำหุ้นที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น TOP และ PTTEP
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- สหรัฐได้ถล่มเป้าหมายนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน ในขณะเดียวกัน อิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์โดยสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำที่ “อุกอาจ” และเตือนว่าจะมีผลลัพธ์ตามมาอย่างไม่รู้จบ พร้อมประกาศเตรียมตอบโต้ด้วยทุกวิถีทางและยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่รัฐสภาอิหร่านให้การรับรองมาตรการปิดช่องแคบฮอร์มุซแต่การตัดสินใจสุดท้ายยังคงต้องรอความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติอิหร่านและอยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของประเทศเป็นบวกกับกลุ่มต้นน้ำอย่าง PTTEP รวมไปถึง BANPU
- การเสนอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันใน กทม. และแรงงานในกลุ่มโรงแรมในต่างจังหวัด อาจสะดุดหลังจากการลาออกของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องการเมืองภายในประเทศที่เร่งระดับและเสถียรภาพของรัฐบาลดูมีความเสี่ยงมากขึ้น อาจส่งผลให้อนุมัติเริ่มใช้งบประมาณประจำปี 2026 ล่าช้า มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบกับกลุ่มก่อสร้าง อย่าง CK และ STECON
- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 22 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป กัมพูชาจะระงับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทุกชนิดจากประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แม้ว่าสถานีบริการน้ำมันของ OR ในกัมพูชามีจำนวน 186 แห่ง แต่มองว่าผลกระทบจำกัดต่อ OR เนื่องจากว่ามีสัดส่วนกำไรจากประเทศกัมพูชาคิดเป็น ประมาณ 300-400 ลบ. ต่อปี หรือ 3-4% ของกำไรทั้งหมด
- จากแหล่งข่าวประชาชาติธุรกิจ มีรายงานว่ากระทรวงอุตสาหกรรมได้ตรวจสอบสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานในห้างโมเดิร์นเทรดย่านบางบัวทอง จากการร้องเรียนพบเหล็กข้ออ้อยยี่ห้อ CSI ที่มีปัญหาแตกเมื่อดัดใช้งาน ต่อมาผลทดสอบจากสถาบันเหล็กฯ ชี้ว่าเหล็ก 3 ใน 4 ตัวอย่างไม่ผ่านมาตรฐานด้านโครงสร้างและองค์ประกอบ ส่งผลให้ สมอ. อายัดเหล็กกว่า 16,000 เส้น น้ำหนักเกือบ 100 ตัน มูลค่า 2.2 ล้านบาท มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบกับกลุ่ม Home improvement
- มาริโอ เซนเตโน กรรมการนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้สัมภาษณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงอ่อนแอและจำเป็นต้องได้รับ “มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม” จาก ECB โดยแม้ว่า ECB จะลดดอกเบี้ยติดต่อกัน 8 ครั้งภายในหนึ่งปี และส่งสัญญาณหยุดพักในเดือนกรกฎาคมนี้ อีกทั้งยังสนับสนุนให้มีการลดดอกเบี้ยต่อ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยกับ KCE หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ECB ที่อาจหนุนให้กลุ่ม automotive ของยุโรปฟื้นตัว
Daily pick
TOP: ราคาพื้นฐาน 33.30 บาท
เราแนะนำเก็งกำไรหุ้น TOP ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการกลั่น 275,000 บาร์เรลต่อวัน และครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% ปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ในระดับมูลค่าต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ด้วย PBV เพียงแค่ 0.4 เท่า ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 และอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2SDประกอบกับสงครามใน ตะวันออกกลางที่รุนแรงขึ้นคาดส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดการณ์ Inventory loss จะกลับกลายเป็น gain แทนใน 2Q25 คาดว่า GRM จะฟื้นตัวในระยะสั้นในไตรมาส 2Q25 หนุนจากการบริโภคน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงขับขี่ของตลาดหลัก นอกจากนี้ ปริมาณสต็อกของก๊าซโซลีนและน้ำมันดีเซลยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งส่งผลให้ Singapore GRM ปรับตัวดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 5 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 2 จาก 3.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1Q25
PTTEP: ราคาพื้นฐาน 116.00 บาท
เราแนะนำเก็งกำไร PTTEP เพื่อเป็น proxy ในการ hedge ราคาพลังงานที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับสงครามในตะวันออกกลาง และท่าทีของ อิหร่านที่จะมีโอกาสปิดช่องแคบฮอร์มุส ซึ่งนับเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการส่งออกพลังงานจากตะวันออกกลางคิดเป็นราว 20% ของการค้าพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หากช่องแคบนี้ปิดตัวลงคาดจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในระยะยาว จนกว่าเหตุการณ์จะสงบลง นอกจากนี้ ผู้บริหารให้มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันและปริมาณการผลิตของบริษัท โดยราคาน้ำมันผู้บริหารมองว่าจะอยู่ในกรอบ 65-75 เหรียญ/บาร์เรลจากความไม่แน่นอนของความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ อีกทั้ง ต้นทุนของผู้ผลิต US shale oil ก็ปรับเพิ่มจากวัฏจักรก่อนหน้าเป็น 60 เหรียญ/บาร์เรล โดยในส่วนของปริมาณผลิต ผู้บริหารมองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีแล้วในไตรมาส 1/25 เนื่องจากกิจกรรมการปิดซ่อมบำรุงจะลดลงในช่วงที่เหลือของปี
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันวันจันทร์ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของโซนยุโรปเบื้องต้น (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.8 จุดทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) เดือน มิ.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 51.0 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้ารายงานที่ 52.0 จุด ปิดท้ายด้วย รายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ (US Existing Home Sales) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.95 ล้านหลัง ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.00 ล้านหลัง
วันอังคาร ติดตามดัชนีรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของคณะกรรมการการประชุม (Conference Board Consumer Confidence) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 99.4 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 98.0 จุด และ รายงานดัชนีภาคการผลิตของรัฐริชมอนด์ (Richmond Manufacturing Index) เดือน มิ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -9.0 จุด
วันพุธ ติดตามการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% และตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (US New Home Sales) เดือน พ.ค. ตลาดคาดที่ 6.95 แสนหลัง ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.43 แสนหลัง
วันพฤหัสบดี ติดตามคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (Durable goods orders) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +8.5% MoM เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -6.3% MoM ต่อด้วย การรายงานครั้งสุดท้ายของ GDP 1Q25 ของสหรัฐอเมริกา ตลาดคาดที่ -0.2% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.45 แสนตำแหน่งทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า
วันศุกร์ ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคลของสหรัฐที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PCE Price Index) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.3% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.1% YoY