รอติดตามประชุม กนง. หุ้นไทยอาจพักตัวแต่ยังมองพักไปต่อ

Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 507 จุด (+1.2%) ตอบรับเชิงบวกกับข่าวอิสราเอลและอิหร่านทำข้อตกลงหยุดยิง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 6% นักลงทุนเชื่อว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะช่วยลดความเสี่ยงด้านอุปทาน

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB ที่ระดับ 93 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 99.4 ถ้อยแถลงภายในระบุว่าความเชื่อมั่นลดลง ลบล้างกับเดือนก่อนที่ความเชื่อมั่นดีขึ้น การลดลงครั้งนี้เกิดขึ้นในหลายองค์ประกอบ ผู้บริโภคมีทัศนคติเชิงบวกต่อสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่น้อยลงกว่าเดือนก่อน สอดคล้องกับตลาดแรงงานที่ความเชื่อมั่นลดลงเช่นกัน และความเชื่อมั่นที่ลดลงเกิดขึ้นทุกกลุ่มอายุ ทุกกลุ่มรายได้ ทุกกลุ่มการเมือง โดยเฉพาะ Republican

เมื่อถามถึงแผนการใช้จ่าย พบว่าแผนการซื้อรถยนต์สูงสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 24 แต่แผนการซื้อบ้านลดลงเทียบกับเดือน พ.ค. แต่หากเป็นสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนประธาน FED ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ House Financial Services ยังเน้นย้ำว่าไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย เพราะยังต้องการความชัดเจนที่มากกว่านี้สำหรับเรื่องภาษี แม้จะมีแรงกดดันจากทรัมป์ แต่ก็จะเน้นย้ำใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ โดยรวมแล้วทำให้เมื่อคืน US Bond Yield ลดลง สอดคล้องกับ Dollar Index ที่อ่อนค่า

ปัจจัยในประเทศ เมื่อวานที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจประกอบไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานวงเงินรวม 8.5 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ (3.9 หมื่นล้านบาท) โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม (4.5 หมื่นล้านบาท) ด้านการท่องเที่ยววงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท และอื่นๆ อีกเล็กน้อย รวมทั้งหมดเป็นมูลค่าวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน “ท่องเที่ยวคนละครึ่ง” (รวมอยู่ในวงเงินข้างต้น) โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินค่าที่พักไม่เกิน 3 พันบาทต่อคืนต่อห้อง (ตั๋วเครื่องบินไม่เข้าร่วม) โดยจัดทำไว้ 2 แบบ ได้แก่ หากเที่ยวเมืองหลักจะสนับสนุนค่าที่พักเพียง 40% แต่หากเป็นเมืองรองจะสนับสนุน 50% มองเป็นบวกเล็กน้อยกับกลุ่มโรงแรม (CENTEL ERW MINT AWC) สาเหตุที่อาจมิได้มองบวกมากนัก เพราะว่าวานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ พบว่า YTD อยู่ที่ 16 ล้านราย (-4.2% YoY) และมาเลเซียยังคงเป็นอันดับแรก แทนที่จีนที่ลดลงมาเป็นอันดับ 2

วันนี้รอติดตามประชุม กนง. ทราบผลช่วง 14.00 น. เวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% โดยสำรวจนักเศรษฐศาสตร์กว่า 21 ท่าน พบว่าเสียงลดดอกเบี้ยอยู่ราว 6 เสียง (28%) หากตัดสินใจคงดอกเบี้ย มองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่อย่างไรก็ตามเราให้น้ำหนักว่าอาจจะลดดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจชะลอตัวผสานกับเงินเฟ้อที่ต่ำ

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,085 – 1,110 อาจพักตัวบ้างเพราะวานนี้ปรับขึ้นมาแรง อย่างไรก็ตามบรรยากาศเริ่มดูดีขึ้นจากราคาหุ้นที่ไม่แพง ผสานกับตะวันออกกลางที่ดูคลี่คลาย กลยุทธ์การลงทุนยังแนะสะสมได้เช่นเดิม เน้นหุ้นใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งทางธุรกิจ (AMATA BDMS WHA CPN CPALL BJC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 160.00 บาท)

แม้การเติบโตของกำไรในปี 2025 จะไม่โดดเด่น และมีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เราชอบ BBL เพราะ
(1) งบดุลแข็งแกร่ง
(2) Valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ 0.45x P/BV 25E และ PE 25 ที่ 5.7 เท่า
(3) ความสามารถในการเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ควบคุมค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบจาก NIM ที่ลดลง
(4) คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.3%

CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)

คาดเห็น Synergy benefits ทยอยรับรู้มากขึ้นในช่วง 2025 ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือน มี.ค. 2025 ของทั้ง Makro และ Lotus’s ขยายตัวเล็กน้อย YoY จากยอดขายอาหารสด อาหารพร้อมทาน และเบเกอรี่ที่โตดีต่อเนื่อง ระยะสั้นคาดรายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 2.6 พันล้านบาท (+5% YoY, -35% QoQ) จากยอดขายที่โต 2% YoY อัตรากำไรขั้นต้นรวมที่ทรงตัว YoY (GPM ค้าส่งขยายตัว 20 bps YoY, GPM ค้าปลีกทรงตัว YoY ชดเชยกับอัตรากำไรจากพื้นที่เช่าที่ลดลง YoY) ค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลงเล็กน้อย 10 bps YoY จากค่าใช้จ่าย Lotus’s ที่ควบคุมได้ดี แม้ว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเติบโตของ Omni Channel ยังคงโต YoY

 

- Advertisement -