บล.พาย
CRC: Central Retail Corporation PCL
Valuation อยู่ในจุดที่น่าสนใจ
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 29.00 บาท เราเริ่มเห็นแนวโน้ม SSSG ที่ทยอยฟื้นตัวขึ้น MoM ในช่วง 2025 แม้ว่าจะยังคงติดลบ 4%-6% ในช่วง QTD ของ 2025 แบ่งเป็น SSSG ประเทศไทย -2% ถึง -4% มาจากไทวัสดุ ขณะที่ Food ยังคงเป็นบวกทั้ง Tops และ GO Wholesale, ประเทศเวียดนาม -11% ถึง -13% โดย Food เวียดนามยังคงบวกได้ในเงินสกุลดอง, และประเทศอิตาลี -7% ถึง -9% ดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ติดลบราว 10% นิดๆ แต่ปัจจุบัน Valuation อยู่ในจุดที่น่าสนใจ ชื่อขายเพียง 11.6x PE’25E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มและค่าเฉลี่ยการซื้อขายในอดีต
SSSG ช่วง 2Q25 ยังชะลอตัว YoY
- คุณสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO คนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2025 เป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ Home DIY และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทไทวัสดุ โดยแถลงแผนกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” โดยมุ่งเน้น 1. Drive Traffic การเพิ่มปริมาณการเข้าใช้บริการของลูกค้า 2. Revive Assortment จัดสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า 3. Rejuvenate Stores ปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า 4. Grow Digital เร่งขยายช่องทาง Digital 5. Introduce New Concept ออกแนวคิดใหม่ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของรายได้และ EBITDA ที่ระดับ 4%-6% ต่อปีด้วยงบลงทุน 4.5 – 4.7 หมื่นล้านบาทในปี 2025-2027
- ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภาวะเศรษฐกิจ บริษัทยังแผนการขยายสาขาและปรับปรุงสาขา แม้ว่าจะขยายสาขาในอัตราที่ลดลงจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนงบลงทุนขยายสาขาต่อปรับปรุงสาขา 55% เทียบกับ 60%-70% ในช่วงที่ผ่านมา แผนขยายสาขาในปี 2025-2027 ประกอบด้วย Department stores 1-2 สาขา, Tops 25-30 สาขา, ไทวัสดุ 13-16 สาขา, Robinson Lifestyle 2-3 สาขา, GO! 4-6 สาขา, go! 12-15 สาขา ซึ่งลดลงจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
- ในมุมมองเรา CRC ยังคงมีความแข็งแกร่งและมีความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจ Premium Food Retailer ในประเทศไทย ขณะที่ธุรกิจ Home DIY ในประเทศไทยยังเติบโตได้จากการขยายฐานลูกค้า B2C มากขึ้น และมีมุมมองเป็นบวกต่อการทำตลาดกลางคืนซึ่งจะช่วยให้ traffic ห้างดีขึ้น นอกจากนี้เราเห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีเยี่ยม ทั้งด้านบุคลากร, IT, และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย โดยเราคาด SG&A-to-sales ลดลง 70 bps YoY ในปี 2025 ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรท่ามกลางกำลังซื้อที่ชะลอตัวได้ ปัจจุบัน Valuation อยู่ในจุดที่น่าสนใจ ซื้อขายเพียง 11.6x PE’25E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มและค่าเฉลี่ยการซื้อขายในอดีต แม้เราคาดว่าธุรกิจ Go Wholesale และธุรกิจในเวียดนามยังต้องใช้เวลาในการสร้างรากฐานการเติบโตในระยะยาว ข้อมูลงบเดี่ยวปี 2024 Go Wholesale 11 สาขา ทำยอดขาย 7 พันล้านบาท และมีผลขาดทุน 1.6 พันล้านบาท เทียบกับมียอดขาย 479 ล้านบาทและมีผลขาดทุน 342 ล้านบาทในปี 2023 ที่เริ่มเปิดสาขาได้ 4 สาขาช่วงปลายปี โดย Go Wholesale มีอัตรากำไรขั้นต้น 4.6% ในปี 2024 เทียบกับ Makro ที่ 11.4% ซึ่งถือได้ว่ามีโอกาสในการพัฒนาได้อีกมาก
คำแนะนำ “ซื้อ” ชะลอตัวระยะสั้น ระยะยาวยังสดใส
มูลค่าพื้นฐาน 29.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.4% และ TG 1.0% เทียบเท่า 20x PE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย