บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

DELTA ELECTRONICS (DELTA TB) คดีฟ้องร้องจะจบลงใน 2Q25

  • คาดว่าบริษัทฯ จะรับรู้รายการพิเศษ 3 รายการใน 2Q25 โดยเฉพาะผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจากคดีความที่จบไปแล้ว
  • อย่างไรก็ดี เราคาดว่ารายได้และกำไรปกติจะโตดีจากความต้องการ AI ที่ดีต่อเนื่อง
  • แม้ว่าเราจะชอบ DELTA แต่ Valuation ยังแพง

ความต้องการ AI ยังดี รายได้ 2Q25 อาจทำสถิติสูงสุดใหม่

เราคาดว่ารายได้รวม 2Q25 อาจทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ USD1.34 พันล้าน (+7.5% q-q, +19% y-y) แม้ว่ากลุ่ม EV จะอ่อนแออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่อำนาจในการซื้อของผู้บริโภคยังอ่อนแอ และได้รับแรงกดดันเพิ่มจากภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ที่ทรัมป์เรียกเก็บ อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะชดเชยได้จากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่อยู่ในเกณฑ์ดีของกลุ่ม AI ที่ความต้องการยังอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ กลุ่มดังกล่าวยังมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ซึ่งทำให้เราคาดกำไรปกติ 2Q25 อยู่ที่ 5.9 พัน ลบ. (+19% q-q, ทรงตัว y-y) ดีกว่าที่เคยไว้ก่อนหน้า

กำไรสุทธิ 2Q25 น่าจะได้รับแรงกดดันจาก 3 รายการพิเศษ

ใน 2Q25 กำไรสุทธิน่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบจาก 3 รายการพิเศษประกอบด้วย 1) ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการตีราคาสินค้าคงคลังตามราคาตลาด 2) สำรองสินค้าคงคลังจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ EV ที่อ่อนแอ 3) ต้นทุนทางด้านกฎหมายจากคดีสิทธิบัตรที่ Vicor Corporation (US) เป็นผู้ฟ้องร้องในปี 2023 ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีการฟ้องร้องเป็น 2 คดี – คดีแรกฟ้องที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งตัดสินให้ DELTA แพ้ในเดือน ก.พ. 25 บริษัทฯ ยังไม่ได้รับรู้ผลขาดทุนดังกล่าวไว้ในงบการเงิน คดีที่สองในเท็กซัสจบลงด้วยการยุติข้อพิพาท โดย Vicor ตกลงที่จะถอนฟ้อง เราคาดว่าบริษัทฯ จะรับรู้ต้นทุนของข้อตกลงดังกล่าวทั้งหมดใน 2Q25

ความเสียหายจากคดีอาจกระทบเงินสดแต่ปลดล็อกความกังวล

แม้ว่าจะไม่รู้มูลค่าที่แน่นอนของการยุติข้อพิพาทดังกล่าวจากข้อตกลงที่จะไม่เปิดเผยรายละเอียดของทั้งสองฝ่าย เรามองว่าความคืบหน้าดังกล่าวเป็นบวก เนื่องจาก 1) คดีจบเร็วกว่าคาด ซึ่งช่วยลดความกังวลของตลาด 2) สัดส่วนของข้อตกลงยุติข้อพิพาทที่ Delta Taiwan จะรับสูงกว่าของ Delta Thailand 3) ต้นทุนในการยุติข้อพิพาทน่าจะต่ำกว่าในกรณีที่เลือกพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องจนจบกระบวนความ ดังนั้น กำไรสุทธิ 2025 จึงอาจลดลงทั้ง q-q และ y-y จากรายการพิเศษ

Valuation ยังแพง แนะนำซื้อเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยง

จากการดำเนินงานหลักที่ดีกว่าคาด เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2025 ขึ้น 14% เป็น 22.4 พัน ลบ. (+11% y-y) และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของเราเป็น 72 บาท (40x P/E) ในขณะที่เรามีมุมมองเป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มกำไรปกติและคดีความที่สิ้นสุดลงใน 2Q25 Valuation ในปัจจุบันกลับสูงถึง 58x 2025E P/E และ 51x 2026E P/E เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของหุ้น เราคงคำแนะนำ REDUCE อย่างไรก็ดี จากมุมมองทางกลยุทธ์ เราแนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้นสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูง

 

- Advertisement -