ตามที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) มีหนังสือถึง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เพื่อขอหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้KPD ยังคงสามารถประกอบกิจการตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรจำนวน 3 สัญญาต่อไปได้ หรือข้อยุติอื่นๆ รวมถึงแนวทางในการพิจารณาหากจะมีการขอยกเลิกสัญญาฯ โดยในระหว่างการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุติ KPD ได้ขอชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนของสัญญาอนุญาตฯ ดังกล่าวทั้ง 3 สัญญา เฉพาะอัตราร้อยละ 20ของยอดจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในแต่ละเดือน นั้น แต่ AOT ได้ยืนยันกับ KPD แล้วว่าAOT จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไขสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 AOT อนุมัติให้ KPD เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ที่ขาดสภาพคล่องทั้ง 3 สัญญา ได้แก่ (1) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) (2) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และ (3) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) โดยให้ KPD สามารถแบ่งชำระส่วนต่างและเลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำเพียงบางส่วนออกไปอีกงวดละ 8 เดือนสำหรับงวดดังต่อไปนี้

  • เดือนมิถุนายน – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร
    ณ ทสภ. (ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน 2568 ให้เลื่อนออกไป 6 เดือน)
  • เดือนกันยายน – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร
    ณ ทดม.
  • เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร
    ณ ทภก. ทชม. และ ทหญ.

โดย KPD ต้องชำระดอกเบี้ยในอัตรา 8.8440% ต่อปี (คิดตาม MLR+2) ซึ่งเป็นไปตามมาตรการก่อนหน้าของค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างชำระในแต่ละงวดให้แก่ AOT ทุกเดือน ซึ่ง AOT ได้ดำเนินการตรวจสอบหลักประกันสัญญาของ KPD แล้ว พบว่า ยังครอบคลุมค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ KPD ขอเลื่อนชำระรวมกับค่าปรับในอัตรา 18% จากการผิดนัดชำระ

ทั้งนี้ เพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อ AOT ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน AOT ได้ขอให้ KPD นำหลักประกันสัญญามาวางเพิ่มเติม และ KPD ยืนยันจะชำระเงินที่เรียกเก็บตามสัญญาบางส่วน พร้อมชำระดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระล่าช้าตามโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินฯ ระหว่างที่รอผลการศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรให้มีความเหมาะสมกับการดำเนินงานและบริบททางเศรษฐกิจในปัจจุบัน

AOT ยืนยันว่า AOT ยังคงมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีเสถียรภาพ และมีสภาพคล่องเพียงพอ สำหรับรองรับการดำเนินงานตามแผนพัฒนาท่าอากาศยาน และโครงการต่างๆ ที่วางไว้ ภายใต้การดำเนินงานด้วย
หลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างรอบคอบ โปร่งใส และเป็นระบบ พร้อมทั้ง
มีการกำกับดูแลภายในที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ
นักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป

- Advertisement -