บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index วันแรกของเดือน ก.ค. +20.45 จุด +1.88% ปิดที่ 1110.01 จุด มูลค่าการซื้อขายที่ 4.17 หมื่นล้านบาท โดยดัชนีปรับตัวเร่งขึ้นช่วงบ่าย โดยปัจจัยสำคัญมาจากการเมืองไทย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 : 2 มีคำสั่งให้ นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยังจำกัด เพราะการพิจารณางบประมาณปี 2569 เดินหน้าได้ต่อ
โดยกลุ่มที่หนุนดัชนี คือ กลุ่มชิ้นส่วน DELTA กลุ่มพลังงาน GULF กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่กดดัชนี คือ กลุ่มกลุ่มอาหาร CPF, TU กลุ่มโรงพยาบาล BDMS ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
AMATA +3.57%, WHA 4.43%
กลุ่มนิคมฯ แรงหนุนจากรัฐบาลไทยเดินทางไปเจรจาการค้ากับสหรัฐฯแล้ว ทำให้มีโอกาสตลาดให้น้ำหนักเชิงบวกที่ยังรักษาความสามารถการแข่งขันได้ (เราให้โอกาส 65% ที่ไทยจะได้ข้อเสนอการค้าใกล้เคียงหรือดีกว่าประเทศคู่แข่ง) หนุนหุ้นนิคมที่ยังอยู่ในโซน Deep Value ฟื้นเด่น AMATA ซื้อขาย Valuation ที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมี PER (-2SD) และ PBV สำหรับปีงบประมาณ 2568 (-2SD)
KTC +1.67%
ปัจจัยหนุนราคาหุ้น คือ 1.) ธุรกิจโดยรวมยังมีจุดแข็งเรื่องงบดุล โดยเฉพาะสำรองต่อหนี้เสีย (Coverage Ratio) คงระดับสูงราว 385% 2.) ระดับราคาปัจจุบันให้ Div Yield สูงเกิน 5% 3.) ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลงระยะถัดไป 4.)กำไรสุทธิปี 2025F คาดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อจากปี 2024F ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 40 บาท
M +9.52%
ปรับขึ้นตอบรับการขยายระยะเวลาโปรโมชั่น “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้ม” ราคา 299 บาทสุทธิ ไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมขยายจำนวนสาขาที่ร่วมรายการเป็น 299 สาขา จากจำนวนสาขา MK ทั้งหมด 439 สาขา เรามองว่าเป็นสัญญาณบวกต่อการปรับตัวของบริษัทในการรุกตลาดกลุ่มราคาคุ้มค่า ซึ่งสอดคล้องกับกระแสผู้บริโภคในปัจจุบัน คาดช่วยพลิก SSSG เดือนมิถุนายนให้กลับมาเป็นบวกหลังจากติดลบ เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ M โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 16 บาท
ADVANC +1.8% TRUE +0.9%
ปัจจัยหนุนราคาหุ้นผลการประมูลคลื่นช่วงสุดสัปดาห์ไม่รุนแรงเท่าที่ตลาดกังวลล่วงหน้า สะท้อนอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวจากการที่มีผู้เล่นน้อยราย ขณะที่สร้าง Upside ต่อกำไร ADVANC และ TRUE ปี 2025-26F ทำให้ KSS และตลาดทยอยปรับเพิ่มประมาณการ แนะนำ ADVANC(TP25F-350)
CENTEL +4.3% AOT +1.65%
กลุ่มสนามบินและโรงแรมปรับขึ้นมีแรงหนุนจาก 1. วันนี้วันแรกโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 2.รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ 4 มิ.ย. 25 +9.1% w w (มาเลย์ +38%, จีน +6.8%) และจำนวนนักท่องเที่ยวรวม จีน ฟื้นตัวต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ ผสานนักท่องเที่ยว 2H25F คาดเร่งขึ้น; ทั้งปีใกล้ระดับปีก่อน (ทรง ลดเล็กน้อย)
GULF +3.87%
แรงหนุนจิตวิทยาบวก US Bond Yield 10 ปี ปรับลง -4 bps จากพัฒนาการเจรจาการค้า, ราคาก๊าซสหรัฐฯ -7% หนุนเพิ่ม ผสาน เงินบาทแข็งค่า 32.4 +/- บาท ผสานทิศทางใน 2Q25-2H25F ยังมี Driver บวกจากหลายปัจจัย i) แนวโน้มส่วนแบ่งกำไรของ Jackson จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นใน 2H25F จากผลการปรับค่าความพร้อมจ่าย Capacity payment ปี 25/26F ในตลาด PJM สหรัฐขึ้นจาก $29/MW-day เป็น $270/MW-day ในมิ.ย. ii) คาดธุรกิจ LNG trading ยังสามารถเติบโต q-q ได้ต่อเนื่อง
