KS Daily View 02.07.2025 >>> พรุ่งนี้จับตา เจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ SET วันนี้ กรอบ 1,095-1,125 จุด แนะนำ OSP และ AAV
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 ลดลง 0.11%, Nasdaq Compositeลดลง 0.82%, แต่ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.91% จากแรงกดดันของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ขณะที่ดัชนี Dow Jones ปิดบวกในวันซื้อขายที่ผันผวน ซึ่งมีสภาพคล่องในตลาดต่ำตามฤดูกาล
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,110.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.45 จุด (+1.88%) จากการปรับตัวเพิ่มของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาดว่า SET Index ของไทยมีแนวโน้มเคลื่อนตัว sideways อยู่ในกรอบ 1,095-1,125 จุด จากปัจจัยเชิงบวกต่อตลาดยังคงไม่แน่ชัด และอาจมีความผันผวน โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากสั่งนายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยในวันที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังเดินหน้าต่อไป โดยให้รองนายกฯ รักษาราชการแทนระหว่างนายกฯ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในขณะเดียวกันตลาดยังคงจับตามองความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าของไทยกับสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ด้วยภาพของตลาดที่มีแนวโน้มผันผวน แนะนำกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มของกำไรเติบโตต่อเนื่องใน 2Q25 และ 2H25 อย่าง OSP และ เก็งกำไรระยะสั้นในงบ 2Q25 จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า อย่าง AAV
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1)BGRIM ประกาศลงทุนในบริษัทย่อยในอิตาลี เพื่อพัฒนาโครงการ Battery Energy Storage System หรือ BESS ในประเทศอิตาลี จำนวน 600MW (คิดตามสัดส่วนถือหุ้นจะอยู่ที่ 411MW) โดยโปรเจคนี้ยังอยู่ในช่วง early stage ของการจัดตั้งบริษัทและอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตจากทางภาครัฐ คาดว่าจะได้ภายในปี 2026 และจะเริ่มก่อสร้างในปี 2027 และ COD ในปี 2028
2)ครม. เห็นชอบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาทในพื้นที่กรุงเทพฯ และในบางกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ ได้แก่ กิจการโรงแรมตั้งแต่ 2 ดาวขึ้นไปหรือมีห้องพัก 50 ห้องขึ้นไป หรือมีห้องอาหาร และกิจการสถานบริการ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอตามมติบอร์ดค่าจ้าง มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STECON และ CK
3)กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทั้งสิ้น 16,685,466 คน ลดลง 4.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2,322,772 คน ลดลงถึง 15.24% เมื่อเทียบกับมิถุนายนปีที่แล้ว สะท้อนถึงแนวโน้มชะลอตัวของการท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มองเป็นลบกับกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง CENTEL ERW AWC
4)ครม. มีมติขยายเวลาเข้าร่วมโครงการ คุณสู้ เราช่วยจาก 30 มิ.ย. เป็น 30 ก.ย. และขยายให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่ค้างชำระ 1-30 วัน และค้างเกิน 365 วันด้วย จากเดิมที่ค้าง 30-365 วัน รวมไปถึงมาตรการจ่ายปิดจบ เพิ่มขยายครอบคลุมภาระหนี้เป็น 10,000 บาท จากเดิม 5,000 บาท โดยลูกหนี้จ่ายเพียง 10% เพื่อปิดบัญชีเช่นเดิม ประกอบกับมาตรการใหม่ จ่าย ตัด ต้น สำหรับ ลูกหนี้ NPLs ของสินเชื่อ Unsecured loan ยอดคงค้างไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้ผ่อนชำระขั้นต่ำ 2% ของยอดคงค้าง เวลา 3 ปี และจะยกเว้นดอกเบี้ยให้หากทำได้ครบ 3 ปีตามกำหนด มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับกลุ่มการเงิน
5)ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขาไม่มีแผนที่จะขยายเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม สำหรับการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับประเทศต่างๆ รวมถึงญี่ปุ่น โดยแสดงความไม่มั่นใจว่าการเจรจาจะประสบความสำเร็จ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางกลับจากฟลอริดา พร้อมทั้งขู่ว่าอาจขึ้นภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นถึง 30-35% ซึ่งสูงกว่าระดับ 24% ที่เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน ทั้งนี้ อาจส่งผลในเชิงจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยต่อกลุ่มหุ้นส่งออก
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
OSP: ราคาพื้นฐานที่ 20.60 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ OSP มากขึ้นหลังจากส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 45.0% (+10 bps MoM, -30 bps YoY) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันจากระดับต่ำสุดที่ 44.5% ในเดือนธ.ค. 2024 และอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 39–40% ในปี 2025 จากโครงสร้างรายได้ที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยมูลค่าหุ้นปัจจุบัน OSP ซื้อขายอยู่ด้วย PER ปี 2025 ที่ 15.4 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 2SD
AAV: ราคาพื้นฐาน 1.70 บาท
เก็งกำไรระยะสั้น แม้ว่าสถานการณ์ของจำนวนนักท่องเที่ยวอ่อนแอลงจากปีที่ผ่านมา แต่ราคา Jet fuel เฉลี่ยใน 2Q25 ที่คิดเป็นประมาณ 30-40% ของต้นทุนของสายการบิน ปรับตัวลดลง 5.1% QoQ และ 16.1% YoY หนุนให้ Gross margin ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น หนุนให้ QTD USD/THB ปรับตัวลดลง 3.96% QoQ อาจหนุนให้มี unrealized gain จาก revaluation ของ financial lease ของกลุ่มสายการบิน อาจหนุนให้งบ 2Q25 ของ AAV เติบโต YoY, QoQ
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตาม รายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของสหภาพยุโรป (EU unemployment rate) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 6.2% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ภาคการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ประกาศโดย Automatic Data Processing (ADP Non-Farm Employment Change) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0 หมื่นตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.7 หมื่นตำแหน่ง
วันพฤหัสบดี ติดตาม ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.13 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.39 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.3% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.2% ปิดท้ายด้วย
วันศุกร์ ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตของโซนยุโรป (EU PPI index) สำหรับเดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +0.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.7% YoY ขณะที่ตลาดสหรัฐหยุดทำการเนื่องจากเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกา