CardX เตือนภัยมิจฉาชีพยุคใหม่ คนไทยเสียหายเฉลี่ยเกือบแสนบาทต่อราย เผย 5 กลโกงยอดฮิต – 5 วิธีแอบอ้าง พร้อมฟีเจอร์ใหม่ผ่านแอปที่ช่วยป้องกันได้ทันที
CardX ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและบริการทางการเงินภายใต้กลุ่มSCBX ออกโรงเตือนภัยหลังพบสถานการณ์การหลอกลวงทางออนไลน์ยังคงสร้างความเสียหายให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนเคสจะลดลง แต่มูลค่าความเสียหายต่อรายกลับเพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลล่าสุดในปี 2568 พบว่าคนไทยยังคงถูกหลอกด้วยกลโกงต่าง ๆ รวมถึงการแอบอ้างจากมิจฉาชีพในรูปแบบที่ซับซ้อนและแนบเนียนยิ่งขึ้น
จากสถิติที่รวบรวมโดย CardX พบว่า ปี 2568 จำนวนเคสที่คนไทยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพลดลงจากปีก่อนหน้า 42% ซึ่งสะท้อนถึงความตื่นตัวและความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัย แต่ในทางกลับกัน จำนวนเงินที่เหยื่อสูญเสียต่อรายกลับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9% จาก 83,800 บาทในปี 2567 เป็น 91,500 บาทในปี 2568 สะท้อนให้เห็นว่าแม้เหยื่อจะน้อยลง แต่มิจฉาชีพกลับเลือก “เหยื่อเป้าหมาย” ที่เสียหายหนักกว่าเดิม
ในบรรดากลโกงทั้งหมดที่พบ กลุ่ม “หลอกซื้อขายสินค้าและบริการออนไลน์” ยังคงเป็นกลโกงที่พบมากที่สุด คิดเป็น 57% ของคดีทั้งหมด โดยมิจฉาชีพมักอาศัยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสร้างเพจปลอม เสนอราคาถูกกว่าท้องตลาด และหายไปทันทีเมื่อได้รับเงิน รองลงมาคือการหลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือสิทธิพิเศษ (13%) หลอกให้ทำงานพิเศษแต่ต้องโอนค่าสมัครก่อน (11%) หลอกให้กู้เงินโดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่วงหน้า (7%) และหลอกให้ลงทุนโดยอ้างชื่อคนดังหรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ (6%)
CardX ยังได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการแอบอ้างที่สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางในปีนี้ โดย 5 อันดับแรกที่พบได้แก่
- การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อข่มขู่ให้โอนเงิน โดยขู่ว่าเหยื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีร้ายแรง และหลอกให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์
- การแอบอ้างชักชวนให้ลงทุนผ่านช่องทางปลอม โดยอ้างผลตอบแทนสูงในเวลาเร็ว อย่างคริปโทเคอร์เรนซี หุ้น หรือ ฟอเร็กซ์ หรือการใช้บัญชีปลอม แอปปลอม เว็บไซต์ปลอม
- การปลอมตัวเป็นหน่วยงานราชการอย่างการไฟฟ้า โดยแจ้งยอดค้างค่าไฟ ขู่ว่าจะตัดไฟทันที
- การปลอมแปลงเป็นบริษัทขนส่งเพื่อส่งลิงก์หลอก โดยอ้างว่าคุณมีพัสดุตกค้างหรือมีปัญหา พร้อมส่งลิงก์ปลอมให้คลิกยืนยันหรือจ่ายค่าธรรมเนียม
- การแอบอ้างเป็นกรมที่ดินพร้อมส่งข้อมูลปลอมเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน โดยขู่ว่าที่ดินมีปัญหาค้างชำระภาษีที่ดิน หรือหลอกให้โอนเงินเพื่อยืนยันเอกสารที่ดิน
ขณะเดียวกัน การฉ้อโกงผ่าน “ข้อมูลบัตรเครดิต” ก็ยังคงพบในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการคัดลอกข้อมูลบัตรผ่านเครื่องรูดปลอม (Skimming) การส่ง SMS อ้างว่าคะแนนกำลังจะหมดอายุ การโทรหลอกว่าบัตรถูกล็อก การส่งอีเมลหรือ ข้อความปลอมในรูปแบบ Phishing การแฮ็กข้อมูลผ่าน Wi-Fi สาธารณะ และการแอบอ้างเป็นธนาคารโทรสอบถาม OTP เพื่อเข้าถึงบัญชี
เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ถือบัตร CardX ได้แนะนำฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ “ควบคุมความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง” ได้แก่ การล็อกวงเงินบัตรหรือปิดการใช้งานบัตรชั่วคราวได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน CardX รวมถึงระบบแจ้งเตือนการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ และการตั้งค่ารายจ่ายในแต่ละวัน เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้ทันทุกความเคลื่อนไหวของบัตรได้ตลอดเวลา
CardX ขอแนะนำให้ประชาชนตั้งสติและไตร่ตรองทุกครั้งก่อนโอนเงิน อย่าหลงเชื่อข้อความเร่งด่วน ตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ชัด และไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลบัตรเครดิตกับบุคคลแปลกหน้า โดยเฉพาะหากอ้างว่าโทรมาจากหน่วยงานรัฐหรือธนาคาร ซึ่งไม่มีนโยบายสอบถามข้อมูลส่วนตัวผ่านโทรศัพท์หรือข้อความ
การป้องกันตัวเองคือกุญแจสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ และ CardX ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการเตือนภัยเพื่อสร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ให้กับสังคมไทย และช่วยให้ผู้ถือบัตรรู้เท่าทันและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น