ล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 7.35 จุด (-0.65%) ปิดที่ระดับ 1,116 จุด มูลค่าซื้อขาย 2.9 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 252 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 189 บริษัท) กังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัวหลังสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยสูงถึง 36% โดยมี Sector ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, CCET, SMT), กลุ่มธนาคาร (KTB, SCB, BBL), และกลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CRC, BJC) ส่วน Sector ปรับขึ้น คือ กลุ่มขนส่ง (BEM, BTS), และ กลุ่มประกันฯ (BLA, TLI)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
- BEM (+3.86%), BTS (+0.58%) มีข่าวดี ครม. เห็นชอบมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นบวกกับ BEM และ BTS เนื่องจากค่าโดยสารที่ถูกลงจะกระตุ้นให้ประชาชนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น (รัฐบาลเป็นผู้ชดเชยรายได้ค่าโดยสารให้กับ BTS และ BEM)
- BLA (+1.9%), TLI (+2.94%) มีจิตวิทยาบวกหลัง US Bond yield 10 ปี ปรับขึ้นแตะระดับ 4.4% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ คาดหวังรัฐบาลสหรัฐเร่งออกขายพันธบัตรชุดใหม่ระดมทุนรองรับการใช้จ่ายตามกฏหมายภาษีและงบประมาณ (One Big Beautyful Bill) นักลงทุนที่ถือพันธบัตรเดิมเทขายเพื่อรอซื้อพันธบัตรใหม่ซึ่งคาดว่าจะได้ yield ที่สูงกว่าส่งผลให้ yield ในตลาดปรับขึ้นเป็นบวกกับ BLA และ TLI
- CKP (+4.2%) บวกสวนตลาด หลังราคาหุ้นปรับฐานแรงสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ไปแล้ว นักวิเคราะห์ทยอย preview งบ 2Q25F โทนเป็นบวกงบโตแรงทั้ง q-q และ y-y ฝนมาเร็วและไม่มีปัญหา El nino (น้ำแล้ง) เหมือนช่วง 1H24 แนวโน้ม 3Q25F โตต่อเนื่องจาก high season ของธุรกิจ (ฤดูฝน)
- ITC (-3.3%) กังวลทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% กระทบกลุ่มผู้ส่งออกไทยที่มีตลาดสหรัฐเป็นตลาดหลัก โดยเฉพาะ ITC มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไปสหรัฐคิดเป็น 40% ของรายได้รวม
- KTB (-2.26%), SCB (-0.84%), BBL (-0.35%) วิตกภาษีทรัมป์เสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยกดดันให้แบงก์ชาติต้องลดดอกเบี้ยเป็นจิตวิทยาลบกับหุ้นกลุ่มธนาคาร เบื้องต้นฝ่ายวิจัยกรุงศรีฯ คาดแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง 2 ครั้งจาก 1.75% เป็น 1.25%