บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
PRIMA MARINE (PRM TB)
แนวโน้มกำไรปกติ 2Q25 ฟื้นแรง q-q
- คาดกำไรปกติฟื้นแรง +25.5% q-q เพราะเรือกลับมาทำงานเต็มไตรมาส แต่กำไรสุทธิน่าจะลดลง q-q เพราะ FX loss
- ปรับลดกำไรปกติปี 2025-27 ลงจากเดิมที่ประเมินสูงไป ล่าสุดบริษัทซื้อหุ้นคืนแล้ว 43% ของทั้งโครงการ (76 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 6.27 บาท/หุ้น)
- ราคาเป้าหมายใหม่ 9.50 บาท ยังคงชอบความมั่นคงของรายได้และปันผลสูง
คาดกำไรปกติฟื้นดี +25.5% q-q เพราะเรือกลับมาทำงานเต็มไตรมาส
เราคาดกำไรปกติ 2Q25 ฟื้นแรง +25.5% q-q เนื่องจากเรือ FSU ลำใหม่เริ่มเข้าทำงานตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. หลังจากที่ขายออกไป 1 ลำปลายเดือน มี.ค. เรือ FSO เข้าทำงานตั้งแต่ 26 ก.พ. เริ่มทำงานเต็มไตรมาสในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ เรือ Crew boat 3 ลำที่ทยอยรับเข้ามาใน 1Q25 ทำงานเต็มไตรมาสนี้เช่นกัน รวมถึงเรือที่เข้าซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อนกลับเข้ามาเต็มไตรมาส และการรับเรือ Crew boat อีก 1 ลำในเดือน มิ.ย. เราจึงคาดรายได้ 2Q25 +9.0% q-q เป็น 2,255 ล้านบาท แต่ -5.5% y-y เพราะ 2Q24 เรือ FSU ทำงานเต็มที่ทั้ง 5 ลำ แต่ใน 2Q25 มี 2 ลำที่ใช้งาน 2 ใน 3 ของความจุของเรือ
แต่กำไรสุทธิลดลงเพราะ FX loss
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะดีขึ้นเป็น 35.6% จาก 32.8% ใน 1Q25 ตามจำนวนเรือและการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลง ส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูป (ธุรกิจ PCT) ชดเชยการท่องเที่ยวที่ชะลอได้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นน่าจะยังควบคุมได้อย่างดี ดอกเบี้ยจ่ายยังคงใกล้เคียงไตรมาสที่ผ่านมาเพราะไม่มีการชำระคืนหนี้อย่างมีนัยสำคัญ เราจึงคาดกำไรปกติฟื้นตัวแรง q-q ดังกล่าว แต่คาดว่าไตรมาสนี้จะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทที่แข็งค่าถึง 4% q-q จึงคาดกำไรสุทธิจะ -38.3% q-q, -29.7% y-y เหลือ 451 ล้านบาท รวมถึงคาดเงินปันผล 0.25 บาท/หุ้น สำหรับ 1H25
แนวโน้ม 2H25 ยังดีต่อเนื่องแต่ปรับกำไรลงจากเดิมที่ประเมินสูงไป
แนวโน้มกำไรปกติ 2H25 ดีขึ้นต่อเนื่องจากเรือ Crew boat 1 ลำที่รับเข้ามาในเดือน มิ.ย. ทำงานเต็มที่ไตรมาส อัตราการใช้กำลังการผลิตของเรือ FSU เชื่อว่าจะดีขึ้น ราคาน้ำมันโลกที่ปรับลงยังเป็นผลบวกต่อมาร์จิ้นของ FS และมีโอกาสที่บริษัทอาจซื้อเรือใหม่ 1 ลำสำหรับขนส่งปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2025-27 ลง 11%/9%/11% โดยหลักจากการปรับลดรายได้ของเรือ FSU ที่เราประเมินไว้สูงเกินไปและปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ COC เนื่องจากเรือ FSO หลายลำที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นเรือเปล่า (Bareboat) ให้เช่าระยะยาว
ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 9.50 บาท แนะนำซื้อจาก Dividend yield ที่สูง
หลังปรับประมาณการ คาดกำไรปกติปี 2025 +3.9% y-y และจะเร่งตัวขึ้นในปี 2026 เป็น +9.4% y-y หลังจากเรือทุกลำทำงานเต็มปี และบริษัทมีแผนซื้อเรือใหม่ 6 ลำที่มีขนาดใหญ่กว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า ทดแทนเรือเก่า 6 ลำที่จะปลดระวาง เราปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 9.50 บาทจาก 10.50 บาท โดยปรับ Target P/E เล็กน้อยเป็น 10x ยังคงแนะนำซื้อจากรายได้ที่มั่นคง มีสัญญายาว และ Dividend yield สูง 7-8% ต่อปี