บลูบิค ประกาศความสำเร็จย้ายเข้า SET เปิดกลยุทธ์ยกระดับบริการและกระบวนการทำงาน พร้อมเดินหน้าขยายตัวระยะยาว สร้างการเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน
บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาชั้นนำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและการประยุกต์ใช้ AI ระดับองค์กร (AI-Led Enterprise Digital Transformation) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ผ่านคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Stock Exchange of Thailand หรือ SET) และได้ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาด SET กลุ่มเทคโนโลยี (TECH) หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร (ICT) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับโลโก้และแท็กไลน์ใหม่เป็น “Ambition to Excellence” เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้า สังคม รวมถึงการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเผยกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพการให้บริการที่ตอบโจทย์เทรนด์การทำธุรกิจยุคใหม่ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างมั่นคง
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK กล่าว การย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผนที่วางไว้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 11 ปี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่สำคัญยังเป็นปัจจัยสนับสนุนแผนการขยายตัวในอนาคตของบลูบิค ตอกย้ำการเป็นที่ปรึกษาชั้นนำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและการประยุกต์ใช้ AI ระดับองค์กรแบบครบวงจรในระดับภูมิภาค
“ปี 2568 ถือเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความขัดแย้งทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ จึงปรับใช้กลยุทธ์ธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ในระยะสั้น พร้อมวางรากฐานการเติบโตในระยะยาว โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันยังคงเป็นกระแสหลักของการทำธุรกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ AI ในภาคธุรกิจ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (First Wave) เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายหรือมีทิศทางที่ชัดเจน การลงทุนด้านเทคโนโลยีจะกลับมาดำเนินการตามปกติ เพราะแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้องทำอย่างต่อเนื่อง” นายพชร กล่าว
สำหรับกลยุทธ์และแผนงานระยะสั้น บลูบิคให้ความสำคัญกับการยกระดับกระบวนการทำงาน ลดต้นทุนและการนำเสนอบริการแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ ได้แก่ การนำเสนอ AI-Led Enterprise Digital Transformation ที่ผสาน AI เข้ากับบริการหลัก การปรับกลยุทธ์การขาย พัฒนาแผนอัปสกิล (Upskill) และรีสกิล (Reskill) ให้กับพนักงาน และยกระดับการทำงานระหว่างบริษัทแม่และบริษัทในเครืออย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกลยุทธ์และแผนงานระยะยาว บริษัทเน้นการสร้างเครือข่ายองค์กรที่แข็งแกร่ง ผ่านการเติบโตจากการควบรวมกิจการและกิจการร่วมทุน การผลักดันบริษัทลูกที่มีศักยภาพเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และการพัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีแบบครบวงจรเพื่อรองรับความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เพิ่มมากขึ้น
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แสดงถึงความมุ่งมั่นของบลูบิคในการขับเคลื่อนการเติบโตให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นในระดับภูมิภาค เราพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ เสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในโลกธุรกิจยุคใหม่ ทั้งหมดนี้เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างการเติบโตที่มั่นคง และผลตอบแทนที่ยั่งยืน ตลอดจนสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม” นายพชร กล่าวทิ้งท้าย