Daily Focus: จับตาข้อเสนอสุดท้ายเจรจาการค้าสหรัฐฯ วันนี้
2025 SET Target: 1180
ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index พักตัวแรงกว่าที่เราประเมิน ดัชนีปิดลบ 16.38 จุด ที่ระดับ 1,191.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นลบ. โดยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดัน เช่น CPALL KBANK DELTA AOT GULF เป็นต้น สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นขึ้นเป็น 2.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1.8 พันลบ. (แต่ Short สุทธิ Index Futures บางๆ 1.4 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาดว่า SET Index จะแกว่ง Sideways Up ในกรอบ 1,180–1,205 จุด โดยมี Sentiment หนุนหลังสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงทางค้ากับญี่ปุ่น ด้วยอัตราภาษี 15% ส่วนสำหรับไทยวันนี้ ก.คลังเตรียมยื่นข้อเสนอสุดท้ายเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ โดยคาดหวังว่าจะได้รับการลดภาษีสู่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า ใกล้เคียงกับภูมิภาค โดยล่าสุดฟิลิปปินส์บรรลุดีลกับสหรัฐฯ แล้วเช่นกัน โดยได้ลดภาษีจาก 20% เหลือ 19% โดยต้องติดตามข้อเสนอของไทย ซึ่งตามข่าวระบุว่าจะไม่ได้เปิดตลาดให้สหรัฐฯ ทั้งหมด จะทำให้สหรัฐฯ พอใจและทำข้อตกลงด้วยหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศโดยรวมยังไม่มีประเด็นใหม่เพิ่มเติม โดยตลาดยังคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ย 1–2 ครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เติบโตในระดับต่ำ ขณะที่ปัจจัยการเมืองคาดว่าจะกลับมามีน้ำหนักและสร้างความผันผวนในเดือนหน้า เราคาดว่าตลาดจะเริ่มจับตาที่การประกาศผลการดำเนินงาน 2Q25 ซึ่งเราเชื่อว่าตัวเลขคาดการณ์จะค่อนข้าง Conservative ซึ่งอาจทำให้โอกาสที่กำไรจะออกมาต่ำกว่าคาดมีน้อยลง อย่างไรก็ตามโฟกัสสำคัญอยู่ที่แนวโน้มการเติบโตช่วง 2H25 จากผู้บริหารในการประชุมนักวิเคราะห์ว่าจะมองผลกระทบจากภาษีทรัมป์มากน้อยเพียงใด ซึ่งคาดว่ายังมีความไม่แน่นอนและยังมีความเสี่ยงที่ประมาณการ EPS ของ SET ปัจจุบันที่ 89 บาทยังมีโอกาสถูกปรับลง ในเชิงกลยุทธ์ยังเน้น Selective Buy โดยเฉพาะหุ้นที่ยัง Laggard ดัชนีในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้นที่คาดกำไร 2Q25 แข็งแกร่ง มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.ค.: ITC, KCE, NEO, OSP, SCGP
FSSIA Portfolio: BA, CENTEL, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON
หุ้นเด่น Finansia 23 ก.ค. 25 : SYNEX
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 14.25 บาท
- แนวโน้ม 2Q25 เดินหน้าทำ new high ต่อเนื่องทั้งยอดขายและกำไร โดยได้แรงหนุนจาก Nintendo Switch 2 ช่วงปลายไตรมาส คาดกำไรปกติ 162 ลบ. +8% q-q, +25% y-y
- โมเมนตัมกำไร 3Q25 คาดจะยังทำ New High ต่อเนื่องจาก Apple ที่เปิดตัวสินค้าใหม่และรับรู้ได้ได้ Nintendo Switch 2 เต็มไตรมาส เราประเมินว่าประมาณการกำไรปี 2025 ของ Consensus ที่ 702 ลบ. +12% y-y อาจมี upside ราว 5-10%
- แนวรับ 10.50-10.40 บาท แนวต้าน 11.20//11.50 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าภูมิภาคสุทธิแต่บางลงเหลือ US$213 เม็ดเงินไหลเข้ากระจุกที่ไต้หวัน US$314 ล้าน แต่พลิกไหลออกจากเกาหลีใต้ US$123 ล้าน ส่วนฝั่งอาเซียนเม็ดเงินยังไหลไทยอีก US$57 ล้าน และยังไหลออกจากอินโดนีเซีย US$34 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ามีโอกาสไหลเข้าหลังทรัมป์ประกาศดีลการค้ากับญี่ปุ่นด้วยอัตราภาษี 15% ด้านค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเป็นบวกต่อเงินสกุลเอเชีย
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มท่องเที่ยว จำนวน นักท่องเที่ยวในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 611,596 คน เฉลี่ย 8.73 หมื่นคน/วัน +7% w-w, -14% y-y ยังคงลดลง y-y เป็นสัปดาห์ที่ 24 แต่ลดลงในอัตราที่น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า การกลับมาเติบโต w-w เนื่องจากการท่องเที่ยวช่วง Summer holiday นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 6% w-w แต่ยัง -40% y-y ส่วนกลุ่ม Non-Chinese +7% w-w และ -6% y-y เป็นเฉลี่ย 7.34 หมื่นคน/วัน จำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 1 ม.ค. – 20 ก.ค. มีทั้งสิ้น 18.37 ล้านคน คิดเป็น 53% ของเป้าทั้งปีของเรา ที่คาดการณ์ไว้ 34.9 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 8.51 แสนลบ. คาดแนวโน้มสัปดาห์หน้าจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น w-w
(+) OSP คาดกำไรปกติ 2Q25 ที่ 986 ลบ. +2% q-q และ +7% y-y ดีกว่าที่เคยคาดเล็กน้อย หนุนจาก Gross Margin ที่แข็งแรงและอาจทำ New High ที่ 40.8% ด้าน Market Share อาจยังไม่ปรับขึ้นแต่ภาพรวมรายได้เติบโตได้ดี และมองว่าตัวเลขของ AC Nielsen อาจไม่สะท้อนภาพที่แท้จริง บริษัทยังมุ่งเน้นที่ Margin เป็นหลัก ขณะที่ขวด 0 บาทออกมาเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค เราปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2025 ขึ้น 17% เป็น 3.55 พันลบ. +17% y-y ราคาเป้าหมาย 24 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) GPSC คาดกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 1.86 พันลบ. +63% q-q และ +30% y-y จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงจากการแข็งค่าของเงินบาทและดอลลาร์ไต้หวัน รวมถึงส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก CFXD และ XPCL สำหรับโรงไฟฟ้า SPP คาดมี margin ทรงตัว แม้ Ft ลดลง 11 สตางค์ เหลือ 19.72 บาท/หน่วย โดยได้แรงหนุนจากราคาก๊าซ -4% q-q และราคาถ่านหิน -10% q-q ที่ลดลง ขณะที่ผลประกอบการ GHECO-1 คาดว่าจะทรงตัว โดยผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเต็มไตรมาสช่วยชดเชยการขาดทุนจากสต๊อกถ่านหิน และยังมีแรงหนุนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงตามต้นทุนเงินทุนที่ลดลงด้วย คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 +16% y-y ราคาเป้าหมาย 36 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(0) SIRI คาดกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 1.15 พันลบ. +41% q-q, -17% y-y หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะลดลง 13% y-y แต่จะเพิ่มขึ้น 84% q-q จากยอดโอน 2 คอนโดใหม่และค่าใช้จ่ายในการขายและดำเนินงานที่ลดลง แนวโน้ม 2H25 น่าจะสดใสจากยอดโอนคอนโดใหม่ที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวโครงการ low-rise มูลค่า 2 หมื่นลบ. และมีโอกาสบันทึกรายการพิเศษ อาทิ กำไรจากการขายที่ดิน หากกำไร 2Q25 ตามคาด กำไรปกติ 1H25 จะคิดเป็น 42% ของประมาณการทั้งปี 2025 เราคงคาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 4.2 พันลบ. –14% y-y ราคาเป้าหมาย 1.5 บาท แนะนำ “ถือ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 179.37 จุด หรือ +0.40%, ปิดที่ 44,502.44 จุด ส่วนดัชนี S&P500 ขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และยังคงติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้า
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลง หลังจากที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ที่ออกมาคละเคล้ากัน และจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิด
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกหลังโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศดีลการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าอยู่ที่บริเวณ 32.18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -0.15%
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 66.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความหวังที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 65.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.40%
(+) ราคาทองคำตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 37.30 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 3,443.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านการค้าเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 3,445.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.05%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 954.80 / +0.82%
ปัจจัยที่ต้องติดตา
23 ก.ค. | สหรัฐ: Existing Home Sales (มิ.ย.) |
24 ก.ค. | ไทย: ส่งออก (มิ.ย.) ยูโรโซน: ประชุม ECB |
25 ก.ค. | สหรัฐ: Durable Goods Orders (มิ.ย.) อังกฤษ: ค้าปลีก (มิ.ย.) |
30 ก.ค. | ยุโรโซน: 2025 GDP growth สหรัฐ: ประชุม Fed, 2025 GDP growth (AdV.) |
1 ส.ค. | สหรัฐ: Deadline การปรับขึ้นภาษีตอบโตทรัมป์ |