บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
DELTA ELECTRONICS (DELTA TB)
รายได้ดีแต่กังวลกับกำไร
- ค่าใช้จ่ายกดดันกำไรสุทธิ 2Q25 แต่รายได้ยังดี DELTA ปรับเพิ่มเป้าการเติบโตปี 2025 เป็น 15–20% y-y
- มุมมองเชิงระมัดระวังเกี่ยวกับกำไรในช่วง 2H25 จากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นตามคำสั่งซื้อที่มากขึ้นของ Delta Taiwan
- คำแนะนำ REDUCE ที่ราคาเป้าหมายปี 2026 ใหม่ที่ 102 บาท
ค่าใช้จ่ายพิเศษกดดันกำไรสุทธิ 2Q ให้ต่ำกว่าคาด
กำไรสุทธิ 2Q25 ออกมาที่ 4.63 พันลบ. (-15.7% q-q, -29.5% y-y) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 13% เมื่อหักรายการพิเศษหลายรายการ กำไรปกติอยู่ที่ 4.93 พันลบ. (-1% q-q, -17% y-y) โดยมีรายการพิเศษสำคัญประกอบด้วยค่าใช้จ่ายภาษีที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ USD 10 ล้าน (หรือ 320 ลบ.) ซึ่งบริษัทฯ กล่าวว่าจะถูกส่งต่อให้แก่ลูกค้าในภายหลัง และสำรองหนี้สูญ USD 2.6 ล้าน (หรือ 86 ลบ.) จากลูกค้ารายหนึ่ง (พัดลมรถยนต์) ที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ ในไตรมาสนี้ DELTA ทำข้อตกลงยอมความคดีสิทธิบัตรในสหรัฐฯ บริษัทฯ ได้รับรู้ผลกระทบทั้งหมดในระหว่างไตรมาส แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงต่อสาธารณะ
ธุรกิจ AI ที่ดีนำรายได้ใน 2Q25 ในขณะที่ EV ชะลอตัวตามคาด
รายได้รวมใน 2Q25 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ USD 1.33 พันล้าน (+7% q-q, +18% y-y) จากการเติบโตที่ดีในทุกธุรกิจ ประกอบด้วย 1) Power Electronics (+3.6% q-q, +23% y-y) 2) Data Center Infrastructure (+25% q-q, +47% y-y) 3) Automation (+12% q-q, +37% y-y) อย่างไรก็ดี Mobility (EV) ชะลอตัวลง (+2% q-q, -7% y-y) ส่วนมากจากการชะลอตัวในสหรัฐฯ ทั้งนี้กำไรสุทธิ 1H25 คิดเป็น 45% ของประมาณการทั้งปีของเรา
แนวโน้มรายได้ในช่วง 2H ยังดีแต่แนวโน้มค่าใช้จ่ายยังน่ากังวล
DELTA ได้ปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขการเติบโตของรายได้ปี 2025 ขึ้นเป็น 15–20% y-y (จาก 10–15%) ตามคำสั่งซื้อในธุรกิจ AI ที่มีความต้องการในระดับสูง บริษัทฯ ส่งสัญญาณว่ารายได้ 3Q25 จะโตมากกว่า 20% y-y พร้อมแนวโน้มโตต่อเนื่องไปจนถึง 4Q25 เรายังมีความระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มกำไรซึ่งยังผันผวน แม้ว่าคดีความจะระงับไปแล้วจากการจ่ายภาษีนำเข้าล่วงหน้าในปัจจุบัน และค่าธรรมเนียมระหว่างบริษัทที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วง 2H25 (คำสั่งซื้อ AI ในช่วง 2H25 จะมาจาก Delta Taiwan เป็นหลัก)
ทั้งนี้ DELTA ระบุว่าบริษัทฯ จะไม่รับภาระภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แต่จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายไว้ก่อนในงบการเงิน จากนั้นจึงค่อยส่งต่อให้แก่ลูกค้าสหรัฐฯ ที่อัตรา 10–15% อย่างไรก็ดี ภาษีสำหรับนำเข้าที่เกิน 15% บริษัทฯ จำเป็นต้องเจรจากับลูกค้าใหม่ ซึ่งการบันทึกบัญชีที่ไม่ตรงกันเช่นนี้จะทำให้กำไรมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง
คงคำแนะนำ REDUCE ที่ราคาเป้าหมายปี 2026 ใหม่ที่ 102 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของ AI ในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดีเราต้องการเห็นภาพการเติบโตของกำไรที่มีคุณภาพดีขึ้นให้เหมาะสมกับราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรง ซึ่งถูกมองด้วยว่าเป็นปัญหาในด้าน ESG เราปรับราคาเป้าหมายของเราเป็นปี 2026 ที่ 102 บาท (เพิ่ม Target PE เป็น 50x) ในขณะที่ประมาณการผลตอบแทนในรูปเงินปันผลยังต่ำที่เพียง 0.5% เราคงคำแนะนำ REDUCE สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ความผันผวนที่สูงของหุ้นเป็นโอกาส อย่างไรก็ดีเราแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง