บล.เคจีไอ (ประเทศไทย): 

AP Thailand (AP.BK/AP TB)*

ประมาณการ 2Q68F: คาดกำไรดีขึ้น QoQ

Event : ประมาณการ 2Q68F และปรับลดประมาณการกำไร 

Impact 

คาดกำไรสุทธิ 2Q68F ฟื้นตัว 14% QoQ อยู่ที่ 984 ล้านบาท 

เราคาดว่ารายได้รวม 2Q68F ของ AP จะดีขึ้น 27.5% QoQ อยู่ที่ 9.55 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบมีมากขึ้น (95% ของรายได้รวม) รวมทั้งรายได้โครงการคอนโด ฯ ก็ สูงขึ้นด้วย (5% ของรายได้รวม) หลังจากโครงการคอนโด ฯ ที่ Arun Prive มูลค่า 500 ล้านบาทสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในทางกลับกัน อัตรากำไร(margin) รวมอาจลดลงจากมีสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบเพิ่มขึ้ ซึ่งมี margin ต่ำกว่าโครงการคอนโด ฯ ในแง่ ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า (JVs) น่าจะชะลอลงจากยอดโอน 2 คอนโด ฯ ใหม่ ได้แก่ โครงการสุขุมวิท-พระราม 4 และโครงการอ่อนนุช สเตชั่นที่มียอดโอนน้อยลง ผลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568

ผลงาน 2H68F น่าจะแข็งแกร่งกว่า 1H68F 

เราประเมินกำไรสุทธิ 1H68F อยู่ราว 1.85 พันล้านบาท (-19% YoY) ส่วนใหญ่จะเกิดจากรายได้รวมทรงตัว margin ลดลงและส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า (JVs) ลดลง หากคิดจากรายได้รวมที่อยู่อาศัย ทั้งหมดราว 1.7 หมื่นล้านบาท ประมาณ 98% จะมาจากยอดขายโครงการแนวราบที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) อยู่ราว 30% ส่วนยอดขายคอนโด ฯ ที่มี gross margin สูงมีสัดส่วนรายได้น้อยลงมากหลังเกิดแผ่นดินไหวล่าสุดในไทย นอกจากนี้ เราสังเกตว่าพรีเซล (ยอดจอง) 1H68 ร่วงลง 16% YoY อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 1.7 หมื่นล้านบาท (+12% YoY) และคอนโด ฯ อีก 3.3 พันล้านบาท (-63% YoY)) มองในแง่ดี เราคาดว่าผลงาน 2H68F จะแข็งแกร่งขึ้น HoH จากยอดโอนคอนโด ฯ ที่สร้างเสร็จใหม่สามโครงการ (สองโครงการใน 3Q68 และอีกหนึ่งโครงการใน 4Q68) รวมทั้งการเปิดโครงการแนวราบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น 

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568F-69F 

จากการที่ผลประกอบการ 1H68F อาจชะลอตัว เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2568F-2569F ลงราว 7.5-8% ต่อปีอยู่ที่ 4.26 พันล้านบาท (-15% YoY) และ 4.5 พันล้านบาท (+6% YoY) ตามลำดับ ขณะที่แม้จะมีปัจจัยลบอย่าง GDP ปี 2568F-69F น่าจะหดตัวลงต่ำกว่า 2% ต่อปี แต่มาตราการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (100% Loan-to-value: LTV) และการลดค่าธรรมเนียมการโอนกับค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาฯ ที่ลดเหลือ 0.01% ได้เริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 25 พ.ค.68 จนถึง 30 มิ.ย.69 รวมไปถึงแนวโน้มอัตรา ดอกเบี้ยเป็นขาลง ก็น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหา ฯ ได้บ้างในระดับหนึ่ง 

Valuation & Action 

เราคงราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท อิงจากค่าเฉลี่ย PE ปี 2568F-69F ที่ 5.4x (-0.5SD) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 5x (-1 SD) หลังเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของผลงานในครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ “ถือ” 

Risks 

ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสมีนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น ท่ามกลางภาวะหนี้สิ้นภาคครัวเรือนสูงยืดเยื้อรวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

- Advertisement -