บล.พาย: 

STANLY: Thai Stanley Electric PCL

FY1Q26 เห็นผลดีจากการควบรวมโรงงาน

เรากลับมาปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” พร้อมปรับมูลค่าเหมาะสมเป็น 214 บาท (10.5 XPER 26E) มีปัจจัยบวกจากการที่เริ่มเห็นผลดีจากการควบคุมต้นทุนอย่างมากที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปีก่อน ทำให้กำไรขั้นต้นในช่วง FY1Q26 เพิ่มเป็น 20.9% จาก 18.4% ในปีก่อนและทำให้กำไรสุทธิเพิ่มถึง 20 %YoY แม้ว่ารายได้จะลดลง 2%YoY ก็ตาม ทำให้คาดว่าหลังจากนี้หากรายได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ หรือการขยายธุรกิจไปยังต้นน้ำมากขึ้น จะหนุนให้กำไรขั้นต้นยืนในระดับสูงได้ นอกจากนี้ STANLY เองมีแผนลงทุนเพิ่มในธุรกิจ Electronic ผ่านุความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม จะทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นในอนาคตนอกเหนือจากธุรกิจกลุ่ม ชุดโคมไฟในปัจจบัน

FY1Q26 กำไรสุทธิ 370 ล้านบาท (+20%YoY,-17%QoQ)

  • STANLY มีกำไรสุทธิงวด FY1Q26 (เม.ย. 25) ที่ 370 ล้านบาท (+20%YoY, -17%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติประมาณ 378 ล้านบาท (+14%YoY, -6%QoQ) เทียบกับปีก่อนการเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ถือว่าเป็นผลดีจากการควบรวมโรงงานที่ทำมาตลอดทั้งปี 25 ที่ผ่านมา เห็นได้จากกำไรขั้นต้นที่สูงถึง 20.9% จาก 18.4% ใน FY1Q25 แม้ว่ารายได้จะลดลง 2%YoY ก็ตาม (ส่วนเทียบ กับ FY4Q25 ลดลงเป็นผลตามฤดูกาล)
  • รายได้อยู่ที่ 2,923 ล้านบาท (-2%YoY, 5%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดลงสวนทางกับปริมาณการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการชะลอตัวของลูกค้าหลักของ STANLY อย่างนิสสันและมิตซูบิชิ ส่วนการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเป็นผลตามฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก
  • กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.9% ดีขึ้นจาก 18.4% ใน FY1Q25 เหตุผลตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่ลดลงจาก 23.9% ใน FY4Q25 เพราะรายได้ลดลง ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 286 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ลดลง 20%QoQ
  • ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ 92 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า

เตรียมขยายธุรกิจเพิ่ม

ภาพรวมในช่วงที่เหลือของปี 26 (เม.ย.25-มี.ค.26) ในแง่รายได้ผู้บริหารคาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อนเท่านั้น เนื่องจากภาวะอุตสาหกรรมที่ไม่ดีนัก โดยมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจรถจักรยานยนต์เป็น 40% จากเดิม 30% ผ่านการเพิ่มมูลค่าชิ้นงานมากขึ้น ขณะที่ในกลุ่มรถยนต์คาดเห็นการฟื้นตัวในช่วงปลายปี หลังมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา อย่างไรก็ตาม ในแง่กำไรขั้นต้นมีโอกาสเห็นการเพิ่มขึ้นได้หลังมีการควบคุมต้นทุนอย่างมากในปีที่ผ่านมา รวมถึงการขยายการผลิตไปยังชิ้นส่วนต้นน้ำของชุดโคมไฟอย่างน๊อตที่ใช้ประกอบเป็นต้น

นอกจากนี้ STANLY มีแผนขยายการลงทุนไปยังธุรกิจด้าน Electronic มากขึ้นผ่านความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มอย่าง Asian Stanley ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเพิ่มรายได้อีกมากในอนาคต

ยังแนะนำลงทุนระยะกลาง-ยาว

จากกำไรช่วง FY1Q26 ที่ออกมาดี ทำให้เราปรับกำไรกั้งปีขึ้น 6% มาอยู่ที่ระดับ 1,565 ล้านบาท (+13%YoY) โดยคาดสมมติฐานกำไรขั้นต้นที่ 20.6% จากเดิม 19.6% และจากทิศทางบริษัทที่มีโอกาสเติบโตได้ท่ามกลางอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว ทำให้เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้เป็น 214 บาท (10.5XPER 25E)

- Advertisement -