บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
SIAM CEMENT (SCC TB)
พร้อมสำหรับการฟื้นตัว
- ปรับเพิ่มกำไรปกติสะท้อนกำไรที่ดีกว่าคาดใน 2Q25 ซึ่งอาจเป็นกำไรที่ดีที่สุดของปี
- โรงงาน LSP เดินหน้ากลับมาเปิด แม้ spread ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุนเล็กน้อย แผนใช้ Ethane เสริมความสามารถแข่งขันระยะยาว ยังคืบหน้าตามแผน
- Valuation น่าสนใจ สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเริ่มขยับขึ้น
แนวโน้มเป็นบวกแม้จะมีความท้าทายข้างหน้า
โทนการประชุมเป็นบวก แม้ว่า 2H25 จะมีความท้าทายจากภาษีการค้าของสหรัฐที่ทั่วโลกต้องเผชิญ ผู้บริหารยังคงใช้กลยุทธ์เพิ่มพอร์ตสินค้า HVA (Green products) ลดต้นทุน รักษากระแสเงินสด ปรับโครงสร้างธุรกิจ (นอกจากการปรับโครงสร้าง CAP, ธุรกิจรีไซเคิลในโคโซโว และธุรกิจในยิปซัมและคอนกรีตใน 2Q25 จะยังมีต่อเนื่องใน 2H25) พร้อมกลับมาเปิดดำเนินการผลิตโรงงาน LSP ในเวียดนามปลายเดือน ส.ค. นี้
มีความพร้อมรับมือความเสี่ยงจากธุรกิจปิโตรเคมี
ในช่วง 21 วันแรกของเดือน ก.ค. ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีหลายชนิดขยับลงจาก 2Q25 จากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับขึ้นต่อเนื่องจากปลาย มิ.ย. เราคาดว่าราคาน้ำมันจะอ่อนตัวในระยะถัดไปและต่อเนื่องถึงปี 2026 จากภาวะอุปทานส่วนเกิน ณ ระดับ Spread ปัจจุบันที่ USD360–380/ตัน (ต่ำกว่าระดับคุ้มทุนที่ประมาณ USD400/ตัน) เป็นความเสี่ยงที่บริษัทยอมรับได้ที่จะกลับมาเปิดโรงงาน LSP และจะประเมินอีกครั้งหลังผ่านไป 3 เดือน เราเห็นด้วยเพราะเป็นการใช้สินทรัพย์ที่มีความพร้อมให้เกิดประโยชน์ ในส่วนของแผนระยะยาว การลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับการใช้ก๊าซอีเทน เดินหน้าตามแผน คาดแล้วเสร็จปี 2027 ทำให้ LSP แข่งขันได้และธุรกิจปิโตรเคมีกลับมาฟื้นตัวพอดี
กำไรที่ดีกว่าคาดใน 2Q25 นำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการ
จากผลประกอบการงวด 1H25 ที่ SCC มีรายได้จากการขายรวม 249,077 ล้านบาท (-1.8% y-y) EBITDA 29,654 ล้านบาท (+18.2% y-y) และกำไรปกติ 4,267 ล้านบาท (-12.4% y-y) ดีกว่าที่เราคาดจากเงินปันผลรับที่มากกว่าคาด แนวโน้มกำไร 3Q25 ลดลง q-q แต่โตจาก 3Q24 ที่ขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,462 ล้านบาท เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2025 ขึ้น 11.7% เป็น 10,068 ล้านบาท +58.8% y-y และปรับกำไรสุทธิขึ้นเป็น 24,237 ล้านบาท สะท้อนรายการพิเศษใน 2Q25 ทั้งนี้ ยังไม่รวมกำไรจากการขาย CAP 10.7% นอกจากนี้เราปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2026–27 ขึ้น 3% และ 9% ตามลำดับ โดยหลักมาจากการปรับเพิ่ม Product spread
ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย Valuations ยังถูก
เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 220 บาท อิง SOTP โดยใช้ EV/EBITDA 7–13 เท่า (เพิ่ม Target EV/EBITDA ของ SCGC เป็น 7x จากเดิม 6x) เป้าดังกล่าวคิดเป็น Implied P/BV ปีนี้เพียง 0.7x แม้จะมีความท้าทายข้างหน้า แต่ SCC มีกลยุทธ์รับมือที่ชัดเจนและเหมาะสมสำหรับการเติบโตในระยะยาว ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 23% ในเวลาเพียง 1 เดือน สะท้อนผลประกอบการที่ดีใน 2Q25 และน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้แล้ว เราเชื่อว่า SCC เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่ลดสัดส่วนการถือครอง SCC มาตลอดกว่า 7 ปี จนเหลือต่ำสุด 9.1% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นการถือครองหุ้นของต่างชาติขยับขึ้นเป็น 10% เป็นสัญญาณบวกหากต่างชาติเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไทย เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”