บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

(0) TU กำไรสุทธิ 2Q25 ดีกว่าคาด 7% มาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด หลังจากนี้ต้องติดตามผลกระทบแท้จริงของ US tariff ต่อไป

  • กำไรสุทธิ 2Q25 เท่ากับ 1,273 ลบ. (+25% q-q, +4.4% y-y) หากไม่รวม FX gain 68 ลบ. จะมีกำไรปกติ 1,205 ลบ. (+20% q-q, -17% y-y) ฟื้นตัว q-q จากรายได้ฟื้นดี q-q ทั้ง Ambient และ Frozen ส่วนรายได้ยังลดลง y-y มาจากบาทแข็งเป็นหลัก
  • อัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าคาดมาอยู่ที่ 19.7% (เราคาด 19%) ดีขึ้นจาก 18.8% ใน 1Q25 และ 18.5% ใน 2Q24 มาจากอัตรากำไรขั้นต้นของ Ambient ที่ทำนิวไฮรอบ 11 ไตรมาสที่ 22% จาก 19.4% ใน 1Q25 มาจากราคาวัตถุดิบในคลังที่อยู่ในระดับต่ำ  และปริมาณขายสินค้า brand สูงขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายโดยรวมยังทรงตัวสูง จาก transformation cost แต่รายได้ฟื้น q-q แรงกว่า ทำให้ SG&A to sales ลดลงมาอยู่ที่ 13.9% จาก 15.8% แต่ยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
  • กำไรสุทธิ 1H25 เท่ากับ 2,292 ลบ. (-3% y-y) คิดเป็น 54% ของประมาณการทั้งปี
  • หลังประกาศ tariff 19% บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปี 2025 ลงเป็น -1-2% y-y (เดิม +1-3% y-y) แต่ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 18.5-19.5% (เดิม 18-19%) เพื่อให้สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น 1H25 ที่ทำได้ 19.3% และปรับเพิ่ม capex เป็น 3.5-4 พันลบ (เดิม 3-3.5 พันลบ.)
  • อย่างไรก็ตาม เป้ารายได้ทั้งปียังท้าท้าย เพราะ 1H25 รายได้รวม -7.8% y-y หากจะทำให้ได้ตามเป้า รายได้ใน 2H25 ต้องทำให้โต +16% h-h และ +5% y-y (ซึ่งค่าเงินบาทปัจจุบันแข็งค่าอยู่ 5% y-y)
  • เรายังคงประมาณการกำไรปี 2025 ที่ 4.2 พันลบ. (-15% y-y) และคงเป้าปี 2025 ที่ 11.7 บาท และอยู่ระหว่างปรับใช้เป้าปี 2026 ที่ 13.5 บาท หลังจากนี้ต้องติดตามผลกระทบแท้จริงของ US tariff ต่อไป

ประกาศจ่ายปันผลงวด 1H25 หุ้นละ 0.35 บาท คิดเป็น Yield 3% เป็นการจ่ายก่อนตกลงทำสัญญากับ Mitsubishi Corporation

ยังคงมุมมองเดิมว่าราคาหุ้นหลังจากนี้จะแกว่งอยู่ในกรอบไม่เกินราคารับซื้อ 12.5 บาท จนกว่าดีลจะแล้วเสร็จ

- Advertisement -