บล.พาย: 

ORI: Origin Property PCL

Presales ลดดึงกำไรสุทธิ 2Q25 อ่อนแอ YoY

เราคงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 1.85 บาท คาดกำไรสุทธิใน 2Q25 อยู่ที่ 260 ล้านบาท (-42% YoY, +133% QoQ) ลดลงจากยอดขาย (Presales) ที่อ่อนแอ 6 พันล้านบาท (-41% YoY, -25% QoQ) โดยเฉพาะคอนโดสูงที่อุปสงค์ชะลอตัว และอัตรายกเลิกการจองสูงขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหว แม้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดปรับตัวดีขึ้นที่ 32% แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 2Q24 (-2 ppts YoY) ทั้งนี้ใน 2H25 เรามองว่าผลประกอบการมีโอกาสเติบโตด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวของ GPM และกำหนดการโอนที่มากขึ้น ขณะที่แผนการขายสินทรัพย์กลุ่มโรงแรมและคลังสินค้าเข้ากอง REIT ใน 3Q25 คาดกระแสเงินสดบางส่วนหนุนการจ่ายคืนหุ้นกู้

คาดกำไรสุทธิ 2Q25 อ่อนแอ YoY แม้โต QoQ จากฐานต่ำ

กำไรสุทธิใน 2Q25 คาดลดลง YoY อยู่ที่ 260 ล้านบาท (-42% YoY, +133% QoQ) จากยอดขาย (Presales) ที่หดตัวอยู่ที่ 6 พันล้านบาท (-41% YoY, -25% QoQ) ด้วยอัตรายกเลิกการจองไม่รวมอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น (โครงการแนวราบที่ 13-15% และคอนโดที่ 11%) หลังเหตุการแผ่นดินไหว

อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) แม้คาดลดลง YoY แต่มีการปรับตัวดีขึ้น

QoQ คาดอยู่ที่ 32% (-2 ppts YoY, +4 ppt QoQ) จากการโอน Big-lot โครงการ Origin Plug & Play E22 บนอัตรากำไรในระดับปกติ และสัดส่วนการโอนโครงการต้นทุนสูงที่น้อยลง เช่น โครงการ Park Origin ที่มีวางระบบผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ PPA (Power Purchase Agreement) ในขณะที่อัตรากำไรในแนวราบก็เติบโตขึ้นเล็กน้อยที่ 17% (+1 ppts YoY)

ความท้าทาย และคาดการฟื้นตัวใน 2H25

บริษัทยังคงเป้าเปิดโครงการใหม่ที่ 2 หมื่นล้านบาท (+3% YoY) ในปี 2025 (แนวราบ 37% และคอนโด 63%) ขณะที่ Presales ใน 1H25 มีมูลค่าทั้งหมด 1.4 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น 47% ของเป้า) ซึ่งเรามองว่าใน 2H25 มีโอกาสทำยอดขายได้ตามเป้าที่ 3 หมื่นล้านบาท (-15% YoY) หนุนจากการเปิดโครงการที่มากขึ้น และอุปสงค์ที่

ฟื้นตัวจากฐานต่ำหกใน 1H25

แม้ยังมีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) สูงกว่าคาดในปี 2025 ลดลงมาที่ 1.5-1.6x ทั้งนี้ ยังมีหุ้นกู้ครบกำหนดมูลค่า 2 พันล้านบาทในเดือนก.ย. (หากรวม BRI ในเดือนพ.ย.จะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ใน 3Q25 ด้วยกำหนดการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT (โรงแรม 2 แห่ง และคลังสินค้า 4 แห่ง) คาดเป็นปัจจัยบวกหนุนกระแสเงินสด และ extra gain ใน 2H25 ราว 2 พันล้านบาท และ 625 ล้านบาท ตามลำดับ

ปรับลดประมาณการปี 2025 แต่ยังคงคำแนะนำ “ถือ”เราคงมูลค่าพื้นฐานที่ 1.85 บาท 

ด้วยวิธีคำนวน PE อิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 4x (-1.25 SD) โดยมองว่าปัญหาสภาพคล่องและอุปสงค์ชะลอตัวจะส่งผลให้ปี 2025 มีโอกาสจ่ายปันผลต่ำกว่านโยบายขั้นต่ำที่ 40% ของกำไรสุทธิ ขณะที่ประเมิน COE 13% และ TG 2% ซึ่งเทียบเท่า PE’25 4.1x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย

- Advertisement -