บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
BCPG Pcl. (BCPG.BK/BCPG TB)*
ผลประกอบการ 2Q68 ดีเกินคาด…แต่ 3Q68 จะดีขึ้นอีก
Event : ผลประกอบการ 2Q68 กับประชุมทางโทรศัพท์สั้น ๆ
Impact
ผลประกอบการ 2Q68 – กำไรสุทธิและกำไรหลักดีกว่าคาด 13%/64%
ขาดทุนสุทธิ 2Q68 ของ BCPG ที่ 651 ล้านบาท (แย่ลงจากมีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาทใน 2Q67 และ 153 ล้านบาทใน 1Q68) เป็นผลจากรายการพิเศษจำนวนมากและมีกำไรหลักที่ 132 ล้านบาท (+33% YoY แต่ -34% QoQ) สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผลประกอบการดีกว่าคาดคือ ขาดทุน Fx ต่ำกว่าคาดและส่วนแบ่งกำไรจากโครงการในสหรัฐฯ สูงกว่าคาด ทั้งนี้ รายการพิเศษต่าง ๆ มีดังนี้ : i) รายการตัดจำหน่ายจากการย้ายกังหัน 3 ตัวของ Nabas2 (560 ล้านบาท) ii) การตัดจำหน่ายของการขายลูกหนี้ EDL (91 ล้านบาท) iii) ขาดทุนจาก Fx (109 ล้านบาท) และ iv) การด้อยค่าของโครงการโซลาร์บนหลังคา (22 ล้านบาท)
กำไรหลักที่ลดลง QoQ เกิดจาก โครงการในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง (การปิดซ่อมและเป็นช่วง low season) แม้ว่าโครงการพลังน้ำจะแข็งแกร่งก็ตาม ส่วนกำไรที่พุ่งขึ้น YoY มาจากต้นทุนดอกเบี้ยลดลงจากการชำระหนี้ และส่วนหนึ่งมาจากผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาวและคลังน้ำมันในประเทศไทยดีขึ้น แม้จะมีปัจจัยลบจากโครงการในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง (ค่าบำรุงรักษาสูงขึ้น), การไม่มีโครงการในญี่ปุ่นแล้วและผลกระทบเต็มปีจากค่า Adder หมดอายุลง ในแง่ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) 2Q68 อยู่ที่ 32.1% (เทียบกับ 26.6% ใน 1Q68 และ 41.9% ใน 2Q67) ขณะที่ กำไรหลัก1H68 ที่ 329 ล้านบาท (-37% YoY) คิดเป็น 22% ของประมาณการทั้งปีของเรา
แนวโน้มเป็นอย่างไร…?
เราไม่มีการปรับประมาณการใหม่ โดยที่เราคาดกำไรหลักปี 2568F จะเพิ่มขึ้น 35% YoY ผลักดันจากกำไรจากโครงการในสหรัฐฯ สูงขึ้น, เริ่มมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Monsoon (290MWe เริ่ม 2H68F) และโครงการโซลาร์เฟสแรกในไต้หวัน (100MWe) มองไปในปี 2569F เราคาดว่ากำไรหลักจะเพิ่มขึ้น 41% YoY โดยได้รับประโยชน์จากผลประกอบการเต็มปีของปี 2568F ที่นำโดยโครงการในสหรัฐฯ แข็งแกร่งและโครงการโซลาร์ ในไต้หวันระยะอื่นๆ ส่วนกำไรสุทธิ 3Q68F เราคาดว่าจะพลิกกลับมาเพิ่มขึ้น QoQ และพุ่งขึ้นแรง YoY จากค่าพร้อมจ่าย (capacity payments: CP) ของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ (857MWe, 44% ของ capacity) ที่พุ่งขึ้น 9x ของ CCE & SFE และ 5x ของ Hamilton & Patriot ตั้งแต่มิ.ย. 68 พร้อมกับเป็นช่วงพีคของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว นอกเหนือจากการไม่มีรายการพิเศษครั้งเดียวใน 2Q68
Valuation & Action
เรายืนคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย DCF ที่ 8.00 บาท โดยที่เรามองว่านักลงทุนจะตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการ 2Q68 อีกทั้ง เรายังยืนยันว่ากำไรจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ของ BCPG เพิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นขาขึ้นและจะเดินหน้าต่อไปอย่างน้อยจนถึง 2H69F โดยรอผลการประมูลครั้งถัดไปในเดือน ก.ค. 69 ทั้งนี้ กำไรที่พุ่งขึ้นนี้อาจทำให้ BCPG นำเงินมาลดหนี้เพิ่มหรือเพิ่มเงินปันผลได้ ขณะที่ กำไรรายปีจะมี upside ราว 6-7% ในปี 2569F (130-150 ล้านบาท) (เริ่มตั้งแต่ 2H69) รวมถึงราคาเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นอีกราว 0.2-0.3 บาท/หุ้น ตามการเพิ่มขึ้นของราคา CP (capacity payment) ในปี 2569/70 ตามที่เราได้แนะไว้ในบทวิเคราะห์ BCPG ของเราเมื่อ 25 ก.ค.68
Risks
ปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย