บล.พาย:

CBG: Carabao PCL

กำไร 2Q25 โตแข็งแกร่งต่อเนื่อง

รายงานกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 800 ล้านบาท (+16%YoY, +5%QoQ) เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด หนุนจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่เติบโตแข็งแกร่ง บวกกับรายได้จัดจำหน่ายสุราข้าวหอมที่โตดีต่อเนื่อง อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นตามต้นทุนที่ปรับตัวลดลง และประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ชดเชยค่าใช้จ่ายภาษีความหวาน เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 70.00 บาท แนวโน้มการขยายตลาดในประเทศยังทำได้ดีต่อเนื่อง แม้ว่าคู่แข่งจะออกขวด 10 บาท ขณะที่ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบในตลาด ตปท. ไปค่อนข้างมาก แนวโน้มยอดขายตลาด ตปท. ที่มีโอกาสลุ้นฟื้นตัวในช่วง 2H25 จากตลาดในเมียนมา

กำไร 2Q25 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ

  • กำไร 2Q25 ที่ 800 ล้านบาท (+16%YoY, +5%QoQ) หนุนจากยอดขายสินค้า Branded own ในประเทศที่เตินโต 24%YoY ตามส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ายอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในตลาด ตปท. จะ อ่อนตัวเล็กน้อย 2% YoY จากยอดขายในกัมพูชา (สัดส่วนราว 60% ของยอดขายใน CLMV) ที่ชะลอตัวเนื่องจากมีคำสั่งซื้อบางส่วนได้รับผลกระทบจากการปิดด่านทางบก ทำให้จะเลื่อนไปรับรู้ในช่วง 3Q25 แต่ชดเชยด้วยยอดขายในเมียนมา (สัดส่วนราว 30% ของยอดขายใน CLMV) เติบโตทั้ง YoY และ QoQ และยอดขายในเวียดนามที่โตเด่นต่อเนื่อง บวกกับรายได้การจัดจำหน่ายขยายตัวแข็งแกร่ง YoY จากยอดขายสุราที่เติบโตดี

ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศยังคงมีการแข่งขันสูง

  • ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังขวด 10 บาทที่สูงขึ้น หลังโอสถสภาออก M-150 สีเหลือง 10 บาท/ขวด ในเดือน ก.พ. 2025 ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณของคารามาวแดงก็เริ่มทรงตัวบริเวณ 25%-26% จากที่เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องทุกไตรมาสในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรามองว่าส่วนแบ่งตลาดยังคงเพิ่มขึ้นได้บ้างเล็กน้อยจากการขยายช่องทางในร้านค้าโชห่วย ดังนั้นเรามองว่า คาราบาวแดงจะยังคงไม่ปรับสูตรและเสียภาษีความหวานในอัตรา 1.0 บาท/ลิตร (น้ำตาล 7.8 กรัม/100ml) ตั้งแต่ 1 เม.ย.2025 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในระยะยาว จะขยายตัวดีขึ้นอยู่กับการปรับขนาดความหนากระป๋องและการประหยัดต่อขนาด แต่ระยะสั้นในช่วง 2H25 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังขยายตัวเด่น YOY จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

ข้อพิพาทไทย-กัมพูชากดดันยอดขายในตลาด ดปท.

  • ใช้การขนส่งสินค้าทางเรือไปยังกัมพูชาระหว่างก่อสร้างโรงงาน โดยอาจช่วยเหลือคู่ค้าเรื่องค่าขนส่งบางส่วน ส่วนโรงงานที่กัมพูชาเริ่มผลิตเร็วขึ้นเป็นช่วงเดือน ธ.ค. 2025 จากเดิมช่วง 1Q26 โดยคาดจะช่วยให้อัตราการทำกำไรดีขึ้นจากประหยัดค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลง
  • ความคืบหน้าโรงงานในเมียนมายังเป็นไปตามแผนเดิม เริ่มผลิตช่วงต้นเดือน ส.ค. 2025 มีกำลังการผลิต 4 แสนลัง/ปี เทียบกับยอดขายปัจจุบันเมียนมาที่ราว 6 แสนลัง/ปี จะช่วยให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้นจากต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง

คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาสะท้อนปัจจัยลบไปค่อนข้างมากแล้ว

มูลค่าพื้นฐาน 70.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิด PE Multiple ที่ 20xPE’26E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง

- Advertisement -