บล.กรุงศรีฯ:

เก่งหลังเกมส์

SET Index ปรับขึ้น  +18.36 จุด +1.46% ปิดที่  1277.4จุด  มูลค่าซื้อ-ขาย 7.0 หมื่นล้านบาท  โดยเป็นการปรับขึ้นสอดคล้องกับฝั่งเอเซียเหนือ และกลุ่ม TIPs  ปรับขึ้นในทางเดียวกัน  แรงหนุนจากข่าวที่สหรัฐเลื่อนขึ้นภาษีนำเข้ากับจีน 90 วัน และสหรัฐฯยังกลับมาอนุญาตให้ NVIDIA AMD ส่งออกชิปไปจีนได้ และช่วงบ่าย ผลประชุม กนง.ลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ลงตามที่คาด  โดยหุ้นที่หนุนดัชนีคือ กลุ่มชิ้นส่วน DELTA  HANA KCE กลุ่มขนส่ง THAI , AOT  กลุ่มพลังงาน GULF  กลุ่มธนาคาร BAY, SCB  KTB ฯลฯ   หุ้นที่กดดัชนีคือ ประกันชีวิต TLI  กลุ่มอาหาร CPF  ฯลฯ 

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

DELTA +6.9% KCE +6.4%  HANA +4.5% 

กลุ่มชิ้นส่วนปรับขึ้นตามหุ้นชิปในต่างประเทศรับข่าว 1.) สหรัฐฯกลับมาอนุญาตให้ NVIDIA AMD ส่งออกชิปไปจีนได้   2).DELTA Taiwan รายงานยอดขาย ล่าสุด เดือน ก.ค. +21.6%y-y  อยู่ที่ 45.4 พันล้านเหรียญฯ  มองบวกหนุนคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทชิ้นส่วนไทยมี โดยเฉพาะ DELTA มีโอกาสยอดขายช่วง 2H25 จะดีตาม  3.) TSMC รายงานยอดขายเดือน ก.ค. +26%y-y($1.08 หมื่นล้าน  ใกล้เคียงตลาดคาด  โดยรายได้สะสมตั้งแต่ต้นปีโต +38%

GULF +1.05% 

หุ้นปรับขึ้นคาดแรงหนุน   1.ความคาดหวังการประชุม กนง. วันนี้ คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย -25 bps หนุน GULF  2.) เงินบาทแข็งค่า 32.3 +/- บาท 3.) ราคาก๊าซธรรมชาติ NYMEX ล่าสุด -4.9% ทำให้ QTD -19.9% มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า

ADVANC +1.35% 

หุ้นปรับขึ้นคาดแรงหนุน  1.ความคาดหวังการประชุม กนง. วันที่ 13 ส.ค. คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย -25 bps หนุน ADVANC ในฐานะหุ้น High Yield ii.) กระแสการสมัครแพ็คเกจฟุตบอลพรีเมียร์ลีกโค้งสุดท้ายก่อนเปิดฤดูกาล  และ iii.) คาดเม็ดเงินหนุนหุ้นช่วงก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 19 ส.ค.  ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 350.0 บาท 

TIDLOR +6.25% ,SAWAD +3.2% , MTC +0.67% THANI  +0.6%, MICRO  +3.1%  KTC  +0.85%, AEONTS +3.3%

หุ้นกลุ่มการเงินปรับขึ้นรับ กนง.มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.50% เพราะบริษัทปล่อยสินเชื่อแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ รายรับของบริษัทไม่ปรับลดทันที ด้านแหล่งที่มาของเงินทุนจะมีเงินกู้ระยะสั้นและหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด คาดเงินกู้หรือออกหุ้นกู้ใหม่ถูกทดแทนในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มปรับระดับลดลงจะทำให้ NIM เพิ่มขึ้น  KSSประเมินผลกระทบภายใต้สมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงทุกๆ -0.25% กระทบเต็มปีในปี 2025 Fพบว่าประมาณการกำไรสุทธิปี 2025F ของกลุ่มมี upside ประมาณ  +1.3%  เรายังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น BULLISH สำหรับกลุ่มการเงิน โดยเลือก  MTC และ KTC เป็น Top Pick

BLA -3.2%  TLI -3.7% 

กลุ่มประกันชีวิตปรับลงรับ   กนง. มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.50%  ได้รับผลกระทบจาก 3 ปัจจัย 1.) ผลตอบแทนจากการลงทุนลดลง: บริษัทประกันชีวิตจะนำเบี้ยประกันที่ได้รับจากผู้เอาประกันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง ผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนใหม่ (Reinvestment) ก็จะลดลงตาม  2.) การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น: เมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ผู้คนอาจสนใจที่จะออมเงินผ่านผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า เช่น ตราสารหนี้ระยะยาว หรือการลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้บริษัทประกันต้องแข่งขันเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อกำไรในระยะยาว

- Advertisement -