น่าจะเข้าสู่ช่วงพักฐาน เน้นเป็นรายตัว

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 11 จุด (-0.02%) หลังสหรัฐฯ รายงานดัชนี PPI มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กดดันความกังวลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ด้านราคา น้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.8% ได้แรงหนุนจากมุมมองบวกที่ว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ย

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนี PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) พบว่าขยายตัวมากถึง 3.3%YoY, 0.9%MoM มากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.5%YoY ใน ส่วนของดัชนี PPI (Core)พบว่าขยายตัว 3.7%YoY มากกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3%YoY รายละเอียดภายในระบุว่า 30% ของการเพิ่มขึ้นในราคาบริการขั้นสุดท้าย มาจากกำไรขั้นสุดท้ายของการขายส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ นอกจากนี้ Bloomberg ยังได้นำเสนอว่าบริษัทต่างๆ กำลังปรับราคาสินค้าและบริการ เพื่อชดเชยต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันได้รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.24 แสนราย แต่ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากทราบตัวเลขทั้งหมดพบว่า US Bond Yield กลับมาฟื้นตัวพร้อมกับการแข็งค่าของ Dollar Index และเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมา อ่อนค่าทดสอบ 32.46 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 92% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน กันยายน และปิดโอกาสลดดอกเบี้ย 0.5% จากก่อนหน้าที่ให้โอกาสเล็กน้อย สะท้อน ถึงความเข้มงวดมากขึ้นจากมุมมองตลาด จากนี้แนะติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อการเคลื่อนไหวของ Dollar โดยคืนนี้รอติดตามยอดค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.6%MoM , 61.9

ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้เริ่มเห็นการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติราว 549 ล้านบาท นับเป็นการขายสุทธิที่มากสุดในรอบ 5 วันทำการ (ไม่นับวันที่มี Big Lot TIDLOR) มองเป็นสัญญาณน่ากังวล และหากเงินบาททยอยอ่อนค่ากลับไปจะเป็นแรงกดดันกับนักลงทุนต่างชาติ เมื่อพิจารณาคู่กับพื้นฐานที่ไม่โดดเด่น ผสานกับ Valuation ที่แพงจะทำให้ดัชนีมีความน่ากังวลมากขึ้น

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1255 – 1275 เริ่มหมดปัจจัยหนุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังดัชนีรับกับการเจรจาการค้าไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนอาจทยอยทำกำไร พร้อมกับเพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับแรงกดดันจากผลกระทบภาษีและเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังที่อาจขยายต่ำจะกลับมากดดันกำไรบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตามใน การลงทุนระยะสั้นอาจเลือก Trading หุ้นที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อาทิ การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) อสังหาฯ (AP SPALI) กลุ่มที่ผลประกอบการดี (CPF TACC)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท)

CPF มีกำไรสุทธิงวด 2Q25 ที่ 10.377 ล้านบาท (+50%YoY, +21%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษและดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ที่มีลักขณะคล้ายทุนจะมีกำไรปกติประมาณ 10673 ล้านบาท (+100%YoY,+30%QoQ) ตีกว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย ได้รับผลดีจากราคาสุกรที่ยืนในระดับสูง รวมกับต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง ทำให้กำไรขั้นต้นสูงถึง 19.8% เพิ่มจาก 15.4% ใน 2Q24 และ 18.5% ใน 1Q25

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท)

ผลการดำเนินงานใน 2Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,65 พันล้านบาท (+14% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ลดลงหลือ 3.6% แนวโน้มผลการดำเนินงานสิน 2H25 คาดจะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ HoH หมุนจากสินเชื่อขยายตัว และต้นทุนการเงินลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยลดลง

- Advertisement -