บล.พาย: 

GFPT: GFPT PCL.

2Q25 มีกำไรสุทธิดีเกินคาด

เราแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” มีปัจจัยบวกผลประกอบการงวด 2Q25 ที่กำไรปกติออกมาดีเกินกว่าที่เราคาดไว้ถึง 13% จากผลดีของต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลงโดยเฉพาะกากถั่วเหลือง ซึ่งยังส่งผลดีต่อเนื่องมาถึง 2H25 ที่ทำให้แนวโน้มกำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงได้ อย่างไรก็ตามเราต้องติดตามผลกระทบจากปัญหาแรงงานกัมพูชาที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของแรงงานทั้งหมดของ GFPT หายไปบางส่วนจากเหตุไม่สงบตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะกระทบกับการผลิตบ้าง แม้ว่า GFPT จะใช้วิธีให้พนักงานที่เหลือทำ OT เพิ่ม แต่แนวทางดังกล่าวจะกระทบกับต้นทุนค่าแรงให้ปรับขึ้นได้

2Q25 กำไรสุทธิ 642 ล้านบาท (+10%YoY,+1%QoQ)

  • GFPT มีกำไรสุทธิที่ 642 ล้านบาท (+10%YoY, +1%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นผลขาดทุนประมาณ 21 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 664 ล้านบาท (+18%YoY, +6%QoQ) ดีกว่าที่เราคาดไว้ถึง 13% สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 16.7% จากผลดีของต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง
  • รายได้ที่ 4,881 ล้านบาท (+1%YoY, +5%QoQ) เทียบกับปีก่อนเติบโตจากธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ส่งให้กับ GFN แม้การส่งออกจะลดลงเหลือ 8,500 ตันจาก 9,000 ตัน ส่วนเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเติบโตในเกือบทุกธุรกิจ โดยเฉพาะการส่งออกที่แม้ว่าปริมาณจะลดลงจาก 8,700 ตัน แต่ราคาขายไปยังตลาด EU ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาชดเชย
  • กำไรขั้นต้นที่ 16.7% ดีขึ้นจาก 14.2% ใน 2Q24 และ 14% ใน 1Q25 สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองที่ลดลง 27% YoY, 5% QoQ แม้ราคาไก่เฉลี่ยจะลดลง 10% YoY, 1% QoQ ก็ตาม ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 344 ล้านบาท (-10% YoY, -6% QoQ) เพราะค่าขนส่งลดลง
  • แบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ 197 ล้านบาท (-29% YoY, -39% QoQ) มาจาก GFN 62 ล้านบาท (-55% YoY, -40% QoQ) ที่ได้รับผลกระทบจากราคาโครงไก่ที่ลดลง และ Mckeys อีก 135 ล้านบาท (-4% YoY, -38% QoQ) ลดลงจากปีก่อนตามปริมาณส่งออก ส่วนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเพราะผลจากอัตราแลกเปลี่ยน

3Q25 ได้รับผลกระทบจากแรงงานกัมพูชาบ้าง

ภาพรวมช่วง 3Q25 ในแง่ปริมาณขายคาดยังอยู่ในระดับมากกว่า 8,000 ตัน ซึ่งอาจจะลดลงจาก 1Q-2Q25 บ้าง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการกลับถิ่นของแรงงานกัมพูชาที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของแรงงานทั้งหมด (กลับไปประมาณ 50% ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.) โดยทาง GFPT มีการแก้ไขด้วยการเพิ่ม OT และจัดหาแรงงานจากพม่ามาชดเชย (แต่ช่วงแรกยังต้องใช้เวลาฝึกเสียก่อน) อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกยังมีอยู่โดยเฉพาะราคาต้นทุนที่ข้าวโพดกลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้ง หนุนให้กำไรขั้นต้นในช่วง 2H25 ยังอยู่ในระดับสูงต่อได้

กำไรทั้งปีที่คาดไว้คงต่ำไป รอดูผลกระทบจากแรงงานก่อน

กำไรสุทธิในช่วง 1H25 ที่ออกมาคิดเป็นสัดส่วนกว่า 71% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 1,797 ล้านบาท เราจึงมีแผนที่จะปรับประมาณการขึ้น อย่างไรก็ตามเราอาจจะรอความชัดเจนถึงผลกระทบจากปัญหาแรงงานกัมพูชาเสียก่อนที่จะปรับประมาณการ

คำแนะนำการลงทุน

เรายังแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เช่นเดิม มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 2Q25 ที่ออกมาดีเกินคาด และประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 13 บาท (9.1X PER’25E)

- Advertisement -